แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์


0 Shared

0 Pined

0 Shared

0 Shared

ประวัติทีม เอฟเวอร์ตัน รายชื่อนักเตะ ผลงานของสโมสร ข่าวสารอัพเดท

เอฟเวอร์ตัน Everton

ประวัติสโมสร เอฟเวอร์ตัน

สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1878 โดยใช้ชื่อว่า สโมสรฟุตบอลเซนต์โดมิงโกตามชื่อโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล และเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันในปี ค.ศ. 1884 ในยุคก่อตั้งสโมสร เอฟเวอร์ตันใช้สนามแอนฟีลด์โรดเป็นสนามเหย้า โดยมี จอห์น โฮลดิง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูลและสมาชิกสภาผู้แทนพรรคอนุรักษนิยมเป็นประธานสโมสร

เอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์แรกได้ในฤดูกาล 1890-1891 ซึ่งในปีนั้น “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” มีชุดทีมเป็นเสื้อสีชมพูอ่อน กางเกงสีฟ้า ถุงเท้าสีฟ้า และต่อมากลุ่มแฟนบอล เอฟเวอร์ตัน ได้เรียกร้องให้ใช้เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีขาว ถุงเท้าสีขาว เป็นชุดประจำสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.1892 ผู้บริหารสโมสรได้ตัดสินใจปลด จอห์น โฮลดิง ออกจากตำแหน่งและได้ย้ายทีมเอฟเวอร์ตันไปยังฝั่งตะวันตกของสแตนลีย์พาร์ก ซึ่งในสมัยนั้นเรียกพ้นที่บริเวณนั้นว่า กรีน เมอร์ ต่อมาสนามแห่งนั้นถูกเรียกชื่อตามถนน เป็นกูดิสันพาร์ก จนถึงปัจจุบัน ในฤดูกาล 1893-1894 แจ็ค เซาธ์เวิร์ธ เป็นดาวยิงสูงสุดของลีกอังกฤษ ด้วยจำนวน 27 ประตู ซึ่งอดีตนักเตะแบล็กเบิร์นโรเวอส์รายนี้ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดรายแรกของเอฟเวอร์ตัน

ฤดูกาล 1927-1928 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) เอฟเวอร์ตันได้สร้างสถิติที่ไม่มีใครลบได้จนถึงปัจจุบัน เมื่อดิ๊กซี่ ดีน กองหน้าชาวอังกฤษทำประตูให้กับสโมสรได้ถึง 60 ประตูในหนี่งฤดูกาล และเป็นสถิติการทำประตูในหนึ่งฤดูกาลที่มากที่สุดในลีกอังกฤษ

ประวัติสโมสร เอฟเวอร์ตัน

เอฟเวอร์ตันเริ่มต้นยุคใหม่ในปี 1961 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2) เมื่อได้จอห์น มัวส์ มหาเศรษฐีชาวเมืองลิเวอร์พูล ที่เป็นเจ้าของกิจการลิต เติลวูด พูล และ ธุรกิจการส่งของทางอากาศ เป็นประธานสโมสร โดยมี แฮร์รี แคทเทอร์ริค เป็นผู้จัดการทีม ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน ยุคนั้นมี โฮเวิร์ด เคนดัลล์, อลัน บอลล์ และ โคลิน ฮาร์วีย์ เป็นกำลังสำคัญซึ่งทั้ง 3 พาทีมครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้อีกครั้งในฤดูกาล 1962-1963 ก่อนที่ แฮร์รี แคตเทอร์ริค จะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ

หลังจากนั้น บิลลี บิงแฮม ได้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแทน แคตเทอร์ริค แต่เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่คุมทีม จนในที่สุดบอร์ดบริหารได้ตัดสินใจปลด บิงแฮม ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง กอร์ดอน ลี มารับตำแหน่งแทน แต่ผลงานโดยรวมของ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่ดีขึ้นแต่งอย่างใด

ในช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 เป็นการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของทีมสีน้ำเงิน เมื่อ ฟิลิป คาร์เตอร์ เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสร แทนที่จอห์น มัวร์ส และได้ดึง โฮเวิร์ด เคนดัลล์ เป็นผู้จัดการทีม โดยที่ เคนดัลล์ นำความสำเร็จมาสู่เอฟเวอร์ตันอีกครั้ง โดยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟ เอ คัพ ในปี 1984 และสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลในศึกแชริตี้ ชิลด์ ปีถัดมายังได้แชมป์ดิวิชั่น 1 มาครอง ในปี 1984-1985 โดยทิ้งลิเวอร์พูลอันดับ 2 ถึง 13 แต้ม และคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพวินเนอร์คัพมาครอง ด้วยการ ถล่มราปิด เวียนนา จากออสเตรีย 3-1 ฤดูกาล 1986-87 เอฟเวอร์ตันกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้ง และเป็นครั้งล่าสุดที่ทำได้ ทศวรรษที่ 1990 เอฟเวอร์ตัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรอีกครั้งโดยมี ปีเตอร์ จอห์นสัน เข้ามาบริหารงาน และได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมเป็น โจ รอยส์ , โคลิน ฮาร์วีย์ และ โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ซึ่งทั้งหมดคือดีตนักเตะของทีมนั่นเอง แต่ผลงานของทีมก็ไม่ดีขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าวทีมได้แชมป์ เอฟ เอ คัพ ในปี 1995 เท่านั้น

โดยในฤดูกาล 2010-2011 เดวิด มอยส์ ได้เริ่มซื้อและยืมตัวนักเตะจากสโมสรชื่อดังในต่าง ๆ ในแต่ละประเทศเข้ามาเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น อริก ดิเออร์ จาก สปอร์ติงลิสบอน , แยน มูค่า นายประตูชาว สโลวาเกีย เป็นต้น โดยนัดแรกมอยส์ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อเอฟเวอร์ตันเอาชนะคู่แข่งไม่ได้ถึง 6 นัด ซึ่งเป็นการแพ้ 3 นัดและเสมออีก 3 นัด โดยนัดแรกแพ้ให้กับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ไป 1-0 ที่ อีวู๊ด พาร์ก และ มาเสมอกับ วูล์ฟแฮมตัน วันเดอเรอส์ ในบ้านของตัวเอง 1-1 แต่มอยส์ก็สามารถสร้างความฮึกเหิมด้วยการยันเสมอ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ กูดิสัน พาร์ก ในนัดที่ 4 ซึ่งเอฟเวอร์ตันสามารถไล่ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แบบหวุดหวิดด้วยสกอร์ 3-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากประตูของ ทิม เคฮิล และมิเกล อาร์เตตา และหลังจากนั้น มอยส์ ก็นำลูกทีมคว้าชัยนัดแรกของฤดูกาลโดยในการไปเยือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และเอาชนะไป 2-0 หลังจากนั้นก็สามารถชนะคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล ในบ้านของตนได้ 2-0 ในฤดูกาลนี้ มอยส์ สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับแฟนเอฟเวอร์ตันได้หลายครั้ง โดยการเอาชนะทีมใหญ่ อาทิเช่น บุกไปเฉือน แมนเชสเตอร์ซิตี 2-1 ถึง เอติฮัต สเตเดี้ยม (และในบ้านของเอฟเวอร์ตันก็เอาชนะไปได้ 2-1), ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้ในบ้านของตน 2-1, ชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ 2-1 ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ก และปิดท้ายในฤดูกาลได้อย่างสุดสวยด้วยเอาการชนะ เชลซี 2-1 ในบ้านของตน โดยมอยส์นำทีมจบอันดับที่ 7 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2010-11

บทความแนะนำ  ประวัติทีม ลูตัน ทาวน์ ข่าวสโมสร ข่าวนักเตะ ผลงานและสถิติ

ข้อมูล ทีม เอฟเวอร์ตัน

ผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งกับสโมสร

ในช่วงฤดูกาล 2011-12 เดวิด มอยส์ ได้ซื้อนักเตะใหม่ที่มีชื่อเสียงในระดับกลางเช่น นิกิซา เยลาวิช , ดาร์รอน กิ๊บสัน จากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นต้น ซึ่งนัดแรกของฤดูกาลกลับออกสตาร์ทได้อย่างผิดพลาดโดยแพ้ในบ้านให้กับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง ควีนส์พาร์ก เรนเจอร์ส ไป 1-0 แต่นัดถัดมาสามารถแก้ตัวด้วยการบุกไปเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้ 1-0 16 ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 เดวิด มอยส์ ซึ่งหมดสัญญากับเอฟเวอร์ตัน ได้ย้ายไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แทนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ลงจากตำแหน่งหลังจากคุมทีมมาอย่างยาวนาน โดย มอยส์ เซ็นต์สัญญาเป็นนายใหญ่ให้กับทีมจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นระยะเวลาถึง 6 ปีด้วยกัน โดยเอฟเวอร์ตันได้ประกาศแต่งตั้ง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมชาวสเปน วัย 39 ปี จาก วีแกน แอธเลติก ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2013 ด้วยสัญญา 4 ปี

ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 สโมสรได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า ฟาฮัด โมชีรี นักธุรกิจชาวอังกฤษเชื้อสายอิหร่านได้เข้าซื้อกิจการสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยโมชีรีถือหุ้นจำนวน 49.9 % ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในทันทีซึ่งโมชีรีได้ประกาศว่าจะพาเอฟเวอร์ตันกลับมายิ่งใหญ่ภายใน 3 ปี แต่ต่อมาก่อนที่จะสิ้นฤดูกาลเพียงนัดเดียว สโมสรได้ทำการปลดมาร์ติเนซออกจากตำแหน่ง เนื่องจากผลงานในระยะหลัง ๆ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดย 10 นัด ชนะเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น

ตราสโมสรเอฟเวอร์ตัน

ตราสโมสรเอฟเวอร์ตัน

ตราสโมสรของ เอฟเวอร์ตัน มีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งด้วยกัน ตราสัญลักษณ์ที่ใช้ในปี 1920 เป็นรูปโล่สีน้ำเงิน และมีอักษร EFC  ซึ่งถูกเลิกใช้และออกแบบโลโก้ใหม่อีกครั้งในปี 1938 เป็นโลโก้สีขาวที่มีโล่และหอคอยอยู่ในโลโก้ ซึ่งหอคอยนั้นว่ากันว่าเป็น วังของเจ้าชาย รูเพิร์ท หัลงจากนั้นในช่วงปี 1972-1978 โลโก้ของทีมก็เหลือเพียงแค่การออกแบบง่าย ๆ ที่มีเพียงอักษร EFC อยู่บนอดเสื้อเท่านั้น ปี 1978-1982 ได้มีการเอาหอคอยและรูปโล่ห์เข้ามาใช้ในโลโก้ของสโมสรอีกครั้งหนึ่ง และออกแบบให้เหลือเพียงวงกลม เอาโล่ห์และคำขวัญภาษาละติน (Nil Satis Nisi Optimum) ที่อยู่บนโลโก้ออกไปให้เลือกแต่สัญลักษณ์เดิมอย่างหอคอยเอาไว้ และหลังจากนั้นโกโก้ของสโมสรได้เลี่ยนแปลงอีกเรื่อย ๆจนถึงช่วงปี 2014 ที่ได้ออกแบบใหม่และได้รับความชื่นชอบจากแฟนบอลอย่างมาก จึงได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นรูปโล่ห์สีน้ำเงิน มีหอคอยตรงกลาง และมีตัวเลขปีที่ก่อตั้งสโมสร 1878 อยู่ในนั้นด้วย ว่ากันว่า ในเวลาที่มีการแข่งขันในสนามของตัวเอง จะมีการให้ผู้หญิงสวมชุดสีน้ำเงินไปแจกท็อฟฟี่ในสนาม คนไทยจึงตั้งฉายาว่า ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน

ชุดแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน

ในยุคแรกของ เอฟเวอร์ตันนั้นใช้ชุดแข่งขันเป็นเสื้อสีชมพูอ่อน กางเกงสีฟ้า และถุงเท้าสีฟ้า แต่เนื่องด้วยแฟน ๆของสโมสรเรียกร้องให้เปลี่ยนไปใช้สีน้ำเงิน กางเกงและถุงเท้าสีขา จึงได้เปลี่ยนและใช้มาจนถึงปัจจุบัน ชุดแข่งขันที่เป็นสัญลักษณ์ของ เอฟเวอร์ตัน เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงและถุงเท้าสีขาว

ทำเนียบผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน

อันดับชื่อฤดูกาลจำนวนเกมเปอร์เซ็นต์คุมทีมชนะ
1Theo Kelly1939 – 194810247
2Cliff Briton1948 – 195633950
3Ian Buchan1956 – 19589943
4Johnny Carey1958 – 196112251
5Harry Catterick1961 – 197359460
6Billy Bingham1973 – 197717253
7Steve Burtenshaw1977 – 1977150
8Gordon Lee1977 – 198123455
9Howard Kendall1981 – 198733866
10Colin Harvey1987 – 199017457
11Howard Kendall1990 – 199312251
12Mike Walker1994 – 19943432
13Joe Royle1994 – 199711955
14Howard Kendall1997 – 19984242
15Walter Smith1998 – 200216846
16David Moyes2002 – 201351642
17Roberto Martínez2013 – 201614043
18Ronald Koeman2016 – 20175841
19Sam Allardyce2017 – 20182639
20Marco Silva20184241
บทความแนะนำ  ประวัติทีม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด รายชื่อนักเตะ ข้อมูลสถิติ รางวัลผลงาน

ผู้เล่นสโมสร เอฟเวอร์ตัน

เลขตำแหน่งสัญชาติผู้เล่น
1GKอังกฤษจอร์แดน พิกฟอร์ด
2DFอังกฤษเมสัน ฮอลเกต
5DFอังกฤษไมเคิล คีน
6MFบราซิลอาลัง
7FWบราซิลรีชาร์ลีซง
8MFอังกฤษเฟเบียน เดลฟ์
9FWอังกฤษดอมินิก แคลเวิร์ต-ลูอิน
10MFไอซ์แลนด์จิลวี ซีกืร์ดซอน (รองกัปตัน)
11FWอังกฤษทีโอ วอลคอตต์
12DFฝรั่งเศสลูว์กา ดีญ
13DFโคลอมเบียเยร์ริ มินา
14FWตุรกีแจงค์ โทซุน
16MFฝรั่งเศสอาบดูลาย ดูกูเร
17FWไนจีเรียอเล็กซ์ อิโวบี
19MFโคลอมเบียฮาเมส โรดริเกซ
20FWบราซิลแบร์นาร์
21MFโปรตุเกสอังแดร โกมึช
23DFสาธารณรัฐไอร์แลนด์เชมัส โคลแมน (กัปตัน)
25MFโกตดิวัวร์ฌ็อง-ฟีลิป บาแม็ง
26MFอังกฤษทอม เดวีส์
27FWอิตาลีโมอีเซ เกน
31GKโปรตุเกสJoão Virgínia
32DFอังกฤษJarrad Branthwaite
34MFDemocratic Republic of the CongoBeni Baningime
42FWอังกฤษแอนโทนี กอร์ดอน
43DFอังกฤษจอนโจ เคนนี
49GKเดนมาร์กโยนัส เลอเซิล
DFฝรั่งเศสNiels Nkounkou
MFบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาMuhamed Bešić
FWสเปนซันโดร รามิเรซ
MFDemocratic Republic of the Congoยันนิก บอลาซี

เกียรติประวัติ

ระดับประเทศ

  • ดิวิชันหนึ่ง

ชนะเลิศ (9): 1890–91, 1914–15, 1927–28, 1931–32, 1938–39, 1962–63, 1969–70, 1984–85, 1986–87

  • ดิวิชันสอง

ชนะเลิศ (1): 1930–31

  • เอฟเอคัพ

ชนะเลิศ (5): 1906, 1933, 1966, 1984, 1995

  • อีเอฟแอลคัพ

รองชนะเลิศ (2): 1977, 1984

  • เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์

ชนะเลิศ (9): 1928, 1932, 1963, 1970, 1984, 1985, 1986 (แชมป์ร่วม), 1987, 1995

  • ฟูลเม็มเบอร์คัพ

รองชนะเลิศ (2): 1989, 1991

  • ซูเปอร์คัพ (อังกฤษ)

รองชนะเลิศ (1): 1985–86

ระดับทวีปยุโรป

  • ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ

ชนะเลิศ (1): 1984–85

  • รายการอื่น ๆ

World Soccer Magazine World Team of the Year

ชนะเลิศ (1) : 1985

บทความที่น่าสนใจ