แม้จะยังเหลือเวลาอีกรายๆ 3-4 เดือนก่อนที่ ยูโร 2020 เวอร์ชั่นที่ต้องมาแข่งในปี 2021 จะเปิดฉากฟาดแข้งกันขึ้น แต่นาทีนี้ก็เริ่มมีเสียงวิจารณ์แล้วว่า ใคร? มีโอกาสที่จะติดทีมชาติไปลุยศึกใหญ่ในกลางปีนี้
โดยเฉพาะทีมขวัญใจมหาชนอย่างทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงผลิดอกออกผล มีนักเตะหลายคนทำผลงานได้ดีชนิดที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ของทัพ “ทรีไลออนส์” ต้องปวดหัวอย่างหนักแน่กับตำแหน่งกองกลางที่ตัวเลือกมากเหลือเกิน
วันนี้เราจะไปไล่รายชื่อดูกันว่ามีใครบ้างที่อยู่ในข่าย รวมถึงคาดคะแนนถึงโอกาสของแต่ละคนด้วยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ?
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ผลงานฤดูกาลนี้ : 21 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์
โอกาส : 100%
กัปตันทีม หงส์แดง หากไม่เกิดเจ็บยาวในช่วงดังกล่าวพอดียังไงก็นอนมาแน่นอน เพราะแผงมิดฟิลด์ สิงโตคำราม ชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นสายเลือดใหม่ ยังไงพวกเขาต้องมีตัวเก๋าและนักเตะที่มีความเป็นผู้นำสูงเป็นตัวประคอง
ซึ่ง เฮนเดอร์สัน มีครบทุกองค์ประกอบดังกล่าว เป็นนักเตะวินัยสูง เล่นได้ตามแท็คติกได้ดี ผลงาน 2-3 ปีหลังก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม การันตีจากการได้ชูโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก ที่ผ่านมา
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ผลงานฤดูกาลนี้ : 23 นัด 9 ประตู 5 แอสซิสต์
โอกาส : 100%
นับตั้งแต่ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องยอมรับจริงๆ ว่าฝีเท้าของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะเรื่องของการจบสกอร์ที่ทำได้ดีขึ้นเป็นกอง วัดจากการยิงไป 18, 17 และ 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก 3 ซีซั่นหลังสุด
ด้วยวัย 26 ปีที่กำลังเข้าสู่จุดพีกของนักเตะ รวมถึงมีประสบการณ์เป็นตัวหลักของทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 การรู้มือ รู้ฝีเท้า เป็นอย่างดีกับทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต ดูยังไงก็เป็นอีกหนึ่งแข้งที่ไม่มีทางหลุดโผไปได้เลย
เจดอน ซานโช่
ผลงานฤดูกาลนี้ : 21 นัด 6 ประตู 9 แอสซิสต์
โอกาส : 80%
แข้งพรสวรรค์สูงที่มีอาจจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีโอกาสจะมีค่าตัวสูงระดับ 100 ล้านปอนด์หากตัดสินใจย้ายออกจากดอร์ทมุนด์ แค่นี้ก็น่าจะการันตีได้ว่า ซานโซ่ ถูกประเมินค่าไว้สูงแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่า เซาธ์เกต เองก็คงจะไม่มองข้ามอย่างแน่นอน
จุดเด่นของเพลย์เมกเกอร์ของ ดอร์ทมุนด์ คือการสร้างสรรค์เกม ล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งกลายเป็นนักเตะที่ใช้เวลาน้อยที่สุด99 นัดในการทำ 50 แอสซิสต์ในบุนเดสลีกา ฟอร์มโดยรวมยังยอดเยี่ยมสม่ำเสมอแบบนี้ดูยังไงก็น่าจะมีชื่อไม่ยากอีกราย
ดีแคลน ไรช์
ผลงานฤดูกาลนี้ : 26 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์
โอกาส : 80%
นับเป็นโชคดีของ อังกฤษ อย่างมาก ที่ ไรช์ ตัดสินใจเลือกเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ทั้งๆ ที่เคยก้าวติดทีมชุดใหญ่ของไอร์แลนด์ มาแล้ว แต่ทั้ง 3 เกมที่ลงเล่นไม่ใช่เกมอย่างเป็นทางการ ทำให้เจ้าตัวยังสามารถเปลี่ยนใจได้ทันเวลาพอดี
และนับตั้งแต่ประเดิมเกมแรกในปี 2019 ตอนนี้กัปตันทีมเวสต์แฮม ก็กลายเป็นตัวหลักในทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไปแล้ว จากการลงตัวจริงมา 12 นัดติดต่อกัน ด้วยการเป็นตัวรับธรรมชาติที่สามารถเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟได้ด้วย งานนี้ไม่มีชื่อ ไรช์ ในรอบสุดท้ายต้องบอกว่า “สิงโตคำราม” ตาถั่วแน่ๆ
แจ็ค กรีลีช
ผลงานฤดูกาลนี้ : 6 ประตู 12 แอสซิสต์
โอกาส : 80%
น่าเหลือเชื่อไม่้น้อยที่แข้งฝีเท้าดีอย่าง กรีลิช จะเพิ่งมีโอกาสก้าวมามีชื่อในระดับทีมชาติเมื่อปีที่ผ่านมาเท่านั้น รวมๆแล้วทั้งในศึกเนชั่นส์ลีก และกระชับมิตร แค่เพียง 5 เกมถือว่าน้อยมากๆ กับวัย 25 ปีและชื่อเสียงที่เรารู้จักนักเตะรายนี้มานาน
อย่างไรก็ตามมีคนบอกว่านี่คือปีที่ กรีลิช เล่นได้ดีที่สุดแล้ว ถึงขนาดมีกูรูฟุตบอลเชื่อว่าดีขนาดจะคว้าแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีได้เลย ด้วยเสียงสนับสนุนขนาดนี้ถ้า แกเร็ธ เซาธ์เกต กล้าปฎิเสธเจ้าตัวในรอบสุดท้ายเชื่อว่าเตรียมโดนทัวร์ลงได้เลย
ฟิล โฟเด้น
ผลงานฤดูกาลนี้ : 20 นัด 6 ประตู 3 แอสซิสต์
โอกาส : 70%
การตัดสินใจย้ายออกไปของ ดาบิด ซิลวา เสมือนเป็นการเปิดประตูให้กับ ฟิล โฟเด้น อย่างแท้จริง หลังเจ้าหนูวัย 20 ปีได้ลงสนามสม่ำเสมอมากขึ้นในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และทำผลงานได้ดีด้วยยิงรวมทุกรายการไปแล้วถึง 11 ประตู
โฟเด้น เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอล อังกฤษ ส่งเสียงเชียร์เป็นอย่างมาก เรียกว่าอยู่ในระดับน้องๆ ของ กรีลิช เลยก็ว่าได้ และถ้าจบฤดูกาลด้วยการพา แมนฯ ซิตี้ กลับมาทวงแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ ก็แทบจะเป็นใบเบิกทางสู่รายชื่อทัพ “สิงโตคำราม” ไปโดยปริยาย
บูคาโย่ ซาก้า
ผลงานฤดูกาลนี้ : 22 นัด 5 ประตู 3 แอสซิสต์
โอกาส : 60%
เอาแค่นิยามในหมู่สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ว่าเจ้าหนู ซาก้า คือ เดอะแบก ของ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้ ก็น่าจะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผลงานส่วนตัวของเขาเป็นอย่างไร การมีส่วนร่วมถึง 8 ประตูต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กวัยแค่ 19 ปี
ที่สำคัญเลย ซาก้า เป็นพวกนักเตะอเนกประสงค์เล่นได้หมดทั้งกลาง, ปีก, แบ็ก ทำให้เจ้าตัวดูจะได้เปรียบแข้งรายอื่นไม่น้อย ยิ่งช่วงหลังระบบ 3-4-2-1 กำลังมาแรง มีโอกาสสูงมากที่ เซาธ์เกต จะหยิบเขาติดทีมในฐานะคู่แข่งของ เบนชิลเวลล์ ก็เป็นได้
เมสัน เมาท์
ผลงานฤดูกาลนี้ : 25 นัด 4 ประตู 4 แอสซิสต์
โอกาส : 60%
ลูกรักของ แฟรงค์ แลมพาร์ด พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขามีของจริงๆ แม้ เชลซี จะเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล แต่นับถึงนาทีนี้ เมาท์ ก็กลายเป็นตัวหลักที่กุนซือชาวเยอรมัน ส่งลงเล่นแบบสม่ำเสมอ เหนือดาวดังอย่าง ฮาคิม ซิเย็ค เสียอีก
และไม่ใช่แค่กุนซือจากค่ายสิงบลูส์ เท่านั้นที่ถูกใจ แต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ดูจะถูกชะตากับเจ้าหนูรายนี้ไม่น้อย หลังให้โอกาสลงตัวจริงใน 5 เกมหลังสุดมาตลอด จับทดลองมาหมดทั้งเล่นในตำแหน่งห้องเครื่อง รวมถึงตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หลังกองหน้า
คัลวิน ฟิลลิปส์
ผลงานฤดูกาลนี้ : 18 นัด 2 แอสซิสต์
โอกาส : 30%
การก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นปีแรก ต้องบอกว่าไม่มีผลอะไรเลยกับชายที่ชื่อ ฟิลลิปส์ เจ้าตัวทำหน้าที่ห้องเครื่องให้ ลีดส์ ได้แบบยอดเยี่ยม มีการยืนตำแหน่งที่ดี และมีจุดขายในเรื่องของการเคลื่อนเกม จ่ายบอลสั้น ยาว แม่นยำจนได้ฉายา “ปิร์โล แห่ง ยอร์คเชียร์“
ที่ผ่านมา เซาธ์เกต ก็เคยเรียกไปลองใช้บริการมาในช่วงแข่ง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แต่ปัญหาใหญ่ของ ฟิลลิปส์ เลยคือเรื่องอาการบาดเจ็บ ปีนี้มีเจ็บจนพลาดลงสนาม 3-4 นัดไปแล้วถึง 2 รอบ เทียบกับ ดีแคลน ไรช์ ในตำแหน่งเดียวกันถือว่าเป็นรองอยู่พอตัว
เจมส์ วอร์ด พราวส์