เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ อยู่ในเมืองสแตรทฟอร์ดลอนดอนตะวันออกประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในพรีเมียร์ลีก ได้รับการยกย่องว่าเป็น สถาบันฟุตบอล (The Academy of Football) เพราะเป็นทีมขนาดเล็กที่ปั้นนักฟุตบอลที่ต่อมามีชื่อเสียงและประสบความ สำเร็จกับสโมสรใหญ่ ๆ หลายคน ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ต้องถือว่าเป็นสโมสรฟุตบอล ที่มีอายุยาวนาน เพราะเป็นเมืองของแฟนบอลที่มีจำนวนมากที่สุด
ประวัติทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จัดตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี 1895 และถูกคัดเลือกให้เล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 ตั้งแต่ปี 1919 จากประวัติความเป็นมาจะเห็นว่าเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลาเล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 2 มีเพียง 6 ครั้งเท่านั้นที่ขึ้นมาเล่นอยู่ในดิวิชั่น 1 ในรอบ 37 ปี การแข่งขันในลีก ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด ให้กับถิ่น อัพคัน ปาร์ค แต่เวสต์แฮมก็ตั้งความหวังที่จะสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้กับสโมสรอย่างไม่ย่อท้อ โดยเข้าเข้าร่วมแข่งขันในทุกรายกรที่จัดขึ้น มีข้อที่น่าสังเกตสำหรับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด คือเป็นทีมที่ใช้ผู้จัดการน้อยมาก เพียง 8 คน เท่านั้นในประวัติการเข้าแข่งขันในลีก และก็มรเพียง 2 คนเท่านั้น ที่สามารถนำพาทีมข้าสู่ความสำเร็จได้ จาก รอน กรีนว๊ด และ จอห์น ไลอัลล์ ในช่วงเวลาที่ รอน กรีนวู๊ด เข้ามาทำหน้าที่ กล่าวได้ว่าเวสต์แฮม ยูไนเต็ด รุ่งเรืองสุดขีด โดยในปี1964 ได้ครองแชมป์เอฟ เอ คัพ โดยเอาชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ พร้อมกับการเป็นแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปีต่อมา
จอห์น ไลอัลล์ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในปี 1974 ในระยะเพียงแค่ 1ปี เท่านั้น ก็ทำให้เสต์ แฮม ยไนเต็ด ได้ป็นแชมป์ เอฟ เอ คัพ เมื่อเอาชนะ ฟูแล่ม ไปได้ 2 ประตู่ ต่อ 0 ในปี 1975 หลังจากนั้นต่อมาเป็นเวลา อีก 5 ปี ที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จครั้งสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์ เอฟ เอ คัพ เมื่อมีชัยเหนืออาร์เซนอล ที่สนามเวมบลี่ย์ 1 ประตู ต่อ 0 ในขณะที่เวสต์แฮมทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง ด้วยการเป็นทีมที่เล่นอยุ่ในดิวิชั่น 2 และในระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้เองเวสต์แฮมทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง ด้วยการได้อันดับ 3 ในดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1986 และในฤดูกาล ที่1998-19999 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำได้ดีพอสมควรโดยได้อันดับที่ 5 ในพรีมียร์ชิพ แต่ว่ามีปัญหาความขัดแย้งอย่างรุ่นแรงในเรื่องของธุรกิจผลประโยชน์จากผู้จัดการทีม แฮรี่ เร๊ดแนปป์
เสื้อแข่ง ผู้สนับสนุน ทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
1983 เป็นครั้งแรกที่ทีม เวสต์แฮม ใช้สปอร์นเซอร์ลงเสื้อครั้งแรก โดยมี AVCO เข้าอยู่บนเสื้อยาว ทาง Adidas รับหน้าที่ผลิต จนถึงปีสุดท้าย 1989 ทาง Scoreline จึงมาเป็นผู้ตัดเย็บแทน
1989 – 92 สโมสรใช้โรงงาน Bukta มาทำชุดแข่งขันให้ และมี BAC WINDOWS เป็นยี่ห้อฐานสนับสนุนการเงิน
1992 – 93 ยังคงเป็นชุดกีฬา Bukta ที่ทำให้ทีมใช้งาน แต่เปลี่ยนมาใช้ Dagenham Motors บนหน้าอก อยู่กับทีมนานถึงปี 1997 โดยใช้ Pony ผลิตในปี 1993-97 ในช่วงหลัง
1997-98 ยังเป็นปีของ Pony แต่ในปีนี้ไม่มีตัวหนังสือจากแบรนด์ไหนเข้ามา ทำให้กลายเป็นเสื้อโล่ง ๆ
1998 – 2003 ได้ทาง DR.Martins เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก โดยปีแรกทาง Pony ทำเสื้อ ส่วนปี 1999 – 2003 เป็นทาง Fila รับช่วงต่อ
2003 – 2007 ได้ทาง Reebok ออกแบบชุดและ Jobserve เป็นสปอร์นเซอร์คาดหน้าอก ก่อนจะหมดสัญญาในการเซ็นพร้อมกัน 4 ปี
2007- 13 Sept 2008 แบรนด์ Umbro มารับช่วงต่อ ทีมขุนค้อนได้ XL มาเป็นท่อน้ำเลี้ยง ด้วยเริ่มด้วยการสกรีน XL.com ก่อนมาเปลี่ยนเป็น XL Holidays และเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำไปทั่วโลก ทำให้ทางสปอร์นรายนี้ได้รับผลกระทบ และขาดทุนล้มลงไป จนทีมยุติการสัญญากับทีมเมื่อ 13 Sept 2008 ทำให้ต้องมีการตัดสัญลักษณ์ออกไป และปล่อยเป็นเสื้อโล่ง ๆ ก่อนที่ภายหลังจะมีการแปะเลขแข่ง ของแข้งนั้น ๆลงไปแทน นับว่าเป็นข่าวช็อค ของวงการอย่างมาก เป็นเรื่องใหญ่ของวงการลูกหนังผู้ดี หลังจากนั้นตามมาด้วยการเป็นหนี้ ของทีมขุนค้อน 7.5 ล้านปอนด์ 6 December 2008 – 2013 หลังจากขาดผู้อยู่เบื้องหลังการเงินไม่นาน ทาง SBOBET.COM เว็บพนันชื่อดังก็เข้ามาอุ้ม โดยการเซ็นยาวกันไปหมดตอนปี 2013 ส่วนคนทำเสื้อฤดูกาลแรกถึงปี 2010 ให้เป็นหน้าที่ของ Umbro ที่ยังไม่หมดสัญญา และปีต่อมาปี 2010 ทาง Macron มาทำการออกแบบเสื้อต่อ จนหมดสัญญาของสปอร์นเซอร์พอดีปี 2013
2013 – 2014 ทาง Adidas เข้ามาเป็นทีมจัดการชุดอีกครั้ง และได้ alpari fx trading อยู่บนหน้าอก
Aug 2014 – Jan 15 ทีมขุนค้อนมีปัญหาอีกครั้งและ alpari fx trading ได้มาอยู่ที่เสื้อชั่วคราวอีกครั้ง โดยชุดยังอยู่ในสัญญาของ Adidas
Feb – May 2015 ทาง Betway เข้ามาอุ้มทีมด้วยการขอเป็นสปอร์นเซอร์ และเป็นปีสุดท้ายของทาง Adidas ที่หมดสัญญาลง
2015 – 16 สโมสรย้ายโรงงานมาเป็น Umbro และยังได้ Betway ช่วยเหลือทีมอยู่ ทีมเลือกทำโลโก้พิเศษมา 1 ปี เป็นการอำลาสนามเหย้าเก่า เพื่อที่จะไปเริ่มต้นกับสนามใหม่ ที่สนามโอลิมปิกลอนดอน ที่ได้เช่าไว้เพื่อการลงสนามแข่งขันไว้แล้ว
2016 – 2018 ย้ายมาใช้โลโก้ใหม่ และยังเป็น Umbro ที่รับผิดชอบเสื้อและอุปกรณ์แข่ง ส่วน Betway ก็อยู่ที่อกเสื้ออยู่ต่อไป เพื่อผลักดันผลงานของทีมต่อไป
ตราประจำสโมสร โลโก้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ม
โดยปี 1919 หลังจากสงครามโลกผ่านไป สโมสรได้รับเลือกมาเล่นที่ดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรก
1923 ทีม เวสต์แฮม เริ่มมาใช้โลโก้ที่เป็นค้อนครั้งแรก ได้ลงเตะในรายการเอฟเอคัพ ที่สนามเวมบลีย์เป็นประวัติศาสตร์ และคนเริ่มรู้จักทีมมากขึ้น เพื่อแสดงถึงตัวตนและจุดกำเนิดของทีม ทำให้โลโก้จึงเป็นรูปค้อนคู่วางขวางกัน
1950 มีการเปลี่ยนกรอบนอกที่เคยเป็นวงกลมออกไป และใช้รูปค้อนที่ยาวขึ้นกว่าเดิม และลักษณะเปลี่ยนไป
1952 เพียง 2 ปี ก็เริ่มมาปรับแก้กันอีกรอบ ด้วยการผสานกรอบแบบ 1923 แต่ใช้รูปทรงค้อนแบบ 1950 แทน
1958 กลับมาใช้งานคล้ายต้นแบบของปี 1950
1963 ยังคงโทนและแบบเดิมจากปี 1958 เปลี่ยนแค่กรอบนอกให้เป็นสีฟ้า ด้วยสมัยนั้นยังเน้นการตัดเย็บลงเนื้อผ้า
1964 เปลียนไปเป็นรูปหอคอยปราสาท ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในปีนี้สามารถเข้ารอบชิงเอฟเอคัพได้สำเร็จ แต่พลาดท่าแพ้เพรสตันไป แต่หลังจากนั้น 1 ปีพวกเขาก็ลุยเข้าสู่ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ เริ่มเปิดทางสู่ความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสร
1965 สโมสรก้าวสู่การเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ ซึ่งเป็นถ้วยสูงสุดของสโมสรโลกในตอนนี้ เปรียบได้ดังถ้วยฟุตบอลโลกของทีมชาติ จึงปรับมีการใส่ E.C.W.C. เข้ามาในล่างปราสาท และถัดมา 1966
1968 โลโก้ที่มีสไตล์คล้าย ๆของเก่า แต่เปลี่ยนเป็นแบบไม่มีสี ใช้สีร่างเป็นสีแดงเลือดหมู ออกแบบตั้งแต่ 1967 แต่ไม่ได้มีการใช้ลงเสื้อแข่งจริง
1975 แน่นอนว่าปีนี้สร้างเพื่อรำลึกถึงรายการ Cup Winners ทีีทีมสามารถเข้าไปเล่นในศึก คัพ วินเนอร์ คัพ ได้
1976 มีการออกแบบคล้าย 1975 มาก เพียงแต่เปลี่ยนกรอบนอก และตัดอักษร Cup Winners ออกไป
1980 รูปทรงปราสาทหอคอยและรายละเอียดใหม่ ๆ โดนจับลงใส่มากขึ้น โดยใส่สีฟ้าลงไปในหลายส่วน และส่วนปราสาทเป็นสีทอง ทำให้แปลกตา ซึ่งได้ทางนายเรือเอกในการแข่งขัน เป็นคนออกแบบให้นั่นเอง
1983 ทางแบรนด์ Adidas ได้เข้ามารับทำเสื้อแข่งขันให้ทีม จึงมีการปรับโลโก้ให้ดูเรียบง่าย ด้วยความคลาสสิคเลยใช้ค้อนคู่โล่ง ๆ พร้อมกับตัวย่อ W.H.U.F.C ต่างจากอันเก่ามาก แต่ว่าได้รับความนิยมจากแฟนบอลอย่างมาก
1985 กลับมาใช้รูปปราสาทอีกครั้ง พร้อมกับสีเดิมของชุดแข่งคือ สีฟ้าและแดงเลือดหมู แซมด้วยดิ้นสีทองให้โดดเด่น และฤดูกาล 1986 ผลงานของทีมกลับมาดีขึ้นอย่างมาก
1987 ใช้งานรูปแบบคล้ายปี 1985 แต่ใช้แค่ 2 สีของสโมสรตัดสีทองออกไป
1995 สโมสรครบ 100 ปี ทำให้มีการคิดทำตราสัญลักษณ์ใหม่ เพื่อออกมาฉลอง มีการเพิ่มปีการก่อตั้งและครบร้อยปี กลับมาใช้สีทองเพิ่มในหอคอยปราสาท
1997 ถัดมาอีก 2 ปี ทีมทำการตัดคำว่า F.C. ออกไป มีการเปลี่ยนอีกเล็กน้อยคือ ทำให้ปราสาทเป็นสีทองอร่ามทั้งหมด
1999 ทีมเลือกที่จะแก้โลโก้อีกรอบ โดยครั้งนี้จัดให้สีเลือดหมูเป็นพื้น ปราสาทหอคอยยังคงเป็นสีทอง และเอาสีฟ้านำมาตัดขอบ ออกมาโดนใจแฟนคลับมาก และใช้งานยาวมาถึง 2016 เลยทีเดียว
2015 มีการทำรำลึกตอนย้ายสนามออก จากการคืนพื้นที่ทำให้ทาง Umbro ทำเสื้อสัญลักษณ์พิเศษออกมาให้ The Boleyn Ground (อัพตัน พาร์ค) 1904-2016 โดยออกมาขายให้ทุกคน ในช่วงปลายซีซั่น ก่อนท่างทีมจะย้ายไปเช่าสนามใหม่ ที่ใหญ่กว่า
2016 คราวนี้ป้อมหอคอยหายไป แต่มาเน้นที่รูปทรงค้อนให้ดูเข้มแข็ง ด้วยการใช้สีตัดขอบ และเปลี่ยนอย่างอื่นเล็กน้อย โดยให้ค้อนเป็นสีทองเด่นที่สุด และเพิ่มคำว่า London ด้านล่าง เพื่อการเริ่มต้นเข้าสู่สนามโอลิมปิกลอนดอน มาเป็นสนามเหย้าใหม่ของทีม
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน สโมสรเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
No. | สัญชาติ | ตำแหน่ง | ผู้เล่น |
1 | ประเทศไอร์แลนด์ | GK | แดร์เรน แรนดอล์ฟ |
2 | นิวซีแลนด์ | DF | วินสตัน รีด |
3 | อังกฤษ | DF | แอรอน เครสส์เวลล์ |
4 | แคเมอรูน | MF | อเล็กซ์ ซง (ยืมตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา) |
5 | อังกฤษ | DF | เจมส์ ทอมกินส์ |
7 | อังกฤษ | MF | แมตต์ จาร์วิส |
8 | เซเนกัล | MF | ชีคคู คูยาเต |
9 | อังกฤษ | FW | แอนดี แคร์โรล |
10 | อาร์เจนตินา | FW | เมาโร ซาราเต |
11 | เอกวาดอร์ | FW | เอ็นเนร์ วาเลนเซีย |
12 | อังกฤษ | DF | คาร์ล เจนคินสัน (ยืมตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล) |
13 | สเปน | GK | เอเดรียน |
14 | สเปน | MF | เปโดร โอเบียง |
15 | เซเนกัล | FW | เดียฟรา ซาโก |
16 | อังกฤษ | MF | มาร์ก โนเบิล (กัปตันทีม) |
17 | สาธารณรัฐไอร์แลนด์ | DF | โจอี โอไบรอัน |
18 | ฝรั่งเศส | MF | มอร์แกน อมัลฟิตาโน |
19 | เวลส์ | DF | เจมส์ คอลลินส์ |
20 | ไนจีเรีย | MF | วิกเตอร์ โมเซส (ยืมตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลเชลซี) |
21 | อิตาลี | DF | อันเจโล ออกบอนนา |
25 | แคนาดา | DF | โดเนียล เฮนรี |
26 | โครเอเชีย | FW | นีคีตซา เยลาวิช |
27 | ฝรั่งเศส | MF | ดีมีทรี ปาแย |
28 | อาร์เจนตินา | MF | มานวยล์ ลานซีนี (ยืมตัวมาจาก Al Jazira Club) |
30 | อังกฤษ | MF | มิชาเอล แอนโตนีโอ |
34 | สวิตเซอร์แลนด์ | GK | ราฟาเอล สไปอีเกล |
35 | อังกฤษ | DF | รีซ อ๊อกซฟอร์ด |
36 | อังกฤษ | FW | อีเลียต ลี |
39 | สาธารณรัฐไอร์แลนด์ | MF | โจช คัลเลน |
42 | นอร์เวย์ | MF | มาร์ติน ซามูเอล |
46 | อังกฤษ | DF | Kyle Knoyle |
ทำเนียบผู้จัดการทีม สโมสรเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2006-2007
เวสแฮมต์ฟอร์มตกอย่างหนักทำให้ อลัน พาร์ดิว ถูกไล่ออกและเป็น อลัน เคอร์บิชลี่ย์ เข้ามาคุมแทนทำให้เวสแฮมต์ชนะ7จาก9นัดหลังสุด ซึ่งเป็นการชนะอาร์เซนอล 1-0 และชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้าย 1-0 จากประตูชัยของ คาร์ลอส เตเบซ ทำให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ 15
ฤดูกาล 2007-2008
ในฤดูกาล 2007-2008 เวสต์แฮมมีสถานการณ์ที่เริ่มปลอดภัยมากขึ้นเพราะสามารถไต่อันดับอยู่ครึ่งบนในตารางคะแนนของลีกได้ แม้นักเตะที่เซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง เคร็ก เบลลามี และ คีรอน ดายเออร์ ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง และเกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ที่ บุลินกราวนด์ คือในนัดที่เวสต์แฮมเสมอไป 2-2 กับ แอสตันวิลลา พร้อมกับจนอันดับที่ 10 ซึ่งสามารถแซงหน้า ทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรร่วมเมืองไปหนึ่งอันดับโดยมีแต้มมากกว่าสเปอร์อยู่สามแต้ม
ฤดูกาล 2008-2009
หลังจากมีเหตุการณ์ว่านักเตะของเวสต์แฮมยูไนเต็ดมีเรื่องทะเลาะกับคณะกรรมการของฝ่ายการตลาด แอนทอน เฟอร์ดินานด์ และ จอร์จ แม็กคาร์ทเนย์ ได้ย้ายไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ และ ผู้จัดการทีม อลัน เคอร์บิชลีย์ ได้ลาออกเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2008 ทายาทของเขาที่เคยเป็นอดีตกองหน้าของเชลซี จานฟรังโก โซลา ได้มารับงานคุมทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ดซึ่งมาคุมทีมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2008 และในการทำเช่นนั้นก็กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษครั้งแรกของสโมสร และเขาสามารถนำเวสต์แฮมยูไนเต็ดจบอันดับที่ 9 ใน พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 2009-2010
ในฤดูกาล 2009–10 เวสต์แฮมเริ่มต้นในการเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยด้วยการชนะทืมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นมาอย่าง วูลฟ์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ ไป 2-0 จากประตูของ มาร์ก โนเบิล ต่อมาเขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นกัปตันทีมต่อจาก แมตทิว อัปสัน และในการแข่งขันลีกคัพที่พบกับอดีตคู่ปรับเก่าอย่าง มิลวอล ได้เกิดเหตุจลาจลรุนแรงเกี่ยวกับพื้นดินนอกเช่นเดียวกับการรุกรานสนามและปัญหาภายในฝูงชนอัพตันปาร์ค ในเดือน สิงหาคม ค.ศ. 2009 ความกังวลทางการเงินของในบริษัทของไอซ์แลนด์เจ้าของ บริษัท คนปัจจุบันไม่สามารถที่จะให้ทุนใด ๆ จนกว่าทางสโมสรจะได้เจ้าของใหม่สปอนเซอร์ใหม่และพอผ่านได้ไม่ถึงเดือนก็ได้มีสปอนเซอร์อย่าง สโบเบ็ต ที่ได้เข้ามาสนับสนุนและได้เงินที่ได้เสริมงบนักเตะแล้วทางสโมสรได้ซื้อนักเตะตำแหน่งกองหน้าอย่าง อเล็สซานโดร เดียมานติ มาจาก ลิวอร์โน
เวสต์แฮมมีฤดูกาลที่ตกอับของพวกเขาเช่นกันด้วยการดิ้นรนหนีจากโซนตกชั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็รอดตกชั้นทั้งที่ที่เหลือการแข่งขันอีกสองเกม โดยการเอาชนะวีแกนแอธเลติก 3-2 สโมสรได้คะแนนทั้งหมด 35 คะแนนจากทั้งหมด 38 เกม
ฤดูกาล 2010-2011
วันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 สองวันหลังจากจบฤดูกาล 2009–10 เวสต์แฮมประกาศปลดโซลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีม ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2010 อัฟราม แกรนท์ ผู้จัดการทีมชาว อิสราเอล ได้ลงนามเซ็นสัญญาในการเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมยูไนเต็ดด้วยสัญญา 4 ปี ถึงแม้จะได้แกรนท์มาคุมทีมแต่ก็ทำผลงานไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางอย่างมั่นคงสักที ซึ่งเวสต์แฮมก็คงอยู่ใกล้โซนตกชั้นตลอด ในการแข่งขัน ลีกคัพ เวสต์แฮมได้สร้างความประทับใจด้วยการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมถล่ม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 4-0 ในรอบแปดทีมสุดท้าย แต่รูปแบบเวสต์แฮมในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรูปแบบของพวกเขาในสองถ้วยในประเทศในลีกคัพรอบก่อนรองชนะเลิศเวสต์แฮมแพ้ให้กับเบอร์มิงแฮมซิตีไป 1-3 และส่วนในถ้วยเอฟเอคัพ เวสต์แฮมแพ้ให้กับสโต๊คซิตีไป 2-1 ในรอบแปดทีมสุดท้าย
วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เวสต์แฮมแพ้ให้กับ วีแกนแอธเลติก ในนัดรองสุดท้ายที่สนาม ดีดับเบิลยูสเตเดียม ซึ่งในครึ่งแรกเวสต์แฮมนำไปก่อน 2-0 จากการยิงคนเดียวสองลูกของ เดมบา บา แต่ในครึ่งหลังวีแกนกลับมาเข้าเกมอย่างมั่นคงและยิง 3 ประตู ทำให้วีแกนชนะไป 3-2 ด้วยการยิงประตูชัยของ ชาร์ลส์ เอ็น’ซ็อกเบีย ทำให้ต้องตกชั้นไปเล่นในฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป และนั่นเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เวสต์แฮมปลด อัฟราม แกรนท์ ออกจากการเป็นผู้จัดการทีม
ฤดูกาล 2011-2012
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2011 แซม อัลลาร์ไดซ์ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมยูไนเต็ดถัดจาก อัฟราม แกรนท์
สโมสรเวสต์แฮมจบในอันดับที่สามของ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2011–12 ด้วยการมีทั้งหมด 86 แต้ม และได้สิทธิไปเล่นในรอบเพลย์ออฟในการหาทีมอีกหนึ่งทีมที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 ซึ่งนัดในแรกพวกเขาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ทั้งสองนัดรวมสกอร์ทั้งหมด 5-0 และในนัดชิงได้เจอกับ แบล็กพูล โดยได้เล่นที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 คาร์ลตัน โคล ยิงให้เวสต์แฮมนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่แบล็กพูลจะมาตีเสมอได้ ในช่วงปลายครึ่งแรก และในช่วงครึ่งหลังเกมทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอ แต่ในนาทีที่ 87 ริคาร์โด วาซ เต มายิงประตูชัยให้เวสต์แฮมชนะไป 2-1 คว้าตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้ายได้สำเร็จ
ทำเนียบ รางวัล เกียรติยศ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
- UEFA Cup Winners’ Cup : แชมป์ 1965
- FA Cup : แชมป์ 1964 ,1975 , 1980 รองแชมป์ 1923 , 2006
- League Cup : รองแชมป์ 1966 , 1986
- FA Charity Shield : แชมป์ 1964 รองแชมป์ 1975 , 1980
- Football League War Cup : 1 : แชมป์ 1940
- Southern Floodlit Cup : 1 : แชมป์ 1956 รองแชมป์ 1960
- Essex Professional Cup : 3 : แชมป์ 1951 , 1955 ( Trophy Shared ) , 1959 รองแชมป์ 1952 , 198
- Football League Second Division / Football League Championship ( ดิวิชั่น 1 ) :
- แชมป์ 1957 – 58 , 1980 – 81 รองแชมป์ 1922 – 23 , 1990 – 91 , 1992 – 93
- แชมป์เพลออฟ 2005 , 2012 รองแชมป์เพลออฟ 2014
- Western Football League : แชมป์ 1906-07