ประวัติสโมสร เบนฟิก้า
สปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา (โปรตุเกส: Sport Lisboa e Benfica) หรือรู้จักในชื่อ เบนฟิก้า หรือ เบนฟิก้าลิสบอน เป็นสโมสรกีฬาหลากประเภท ของเมืองลิสบอน ถึงแม้ว่าสโมสรจะประสบความสำเร็จในกีฬาหลายประเภทแต่รู้จักที่สุดกับสโมสรฟุตบอล ก่อตั้งที่เมืองลิสบอนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1904 เป็นหนึ่งในสามทีมใหญ่ของโปรตุเกส อีกสองทีมคือ สโมสรฟุตบอลโปร์ตูและสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล สโมสรมีแฟนฟุตบอลมากกว่า 14 ล้านคนและถือสถิติในกินเนสบุ๊กในเรื่องที่เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก ไบฟีกาได้รับเลือกจาก IFFHS ให้เป็นอันดับ 9 ของสโมสรฟุตบอลยุโรปที่ประสบความสำเร็จที่สุดในศตวรรษที่ 20 และฟีฟ่าให้ติดอันดับ 12 ของสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในศตวรรษที่ 20
ไบฟีกาเป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่วมก่อตั้งปรีไมราลีกา ในปี ค.ศ. 1933 และไม่เคยตกชั้นเลย ด้านการแข่งขันในประเทศ ไบฟีกาชนะในปรีไมราลีกา 32 ครั้ง ชนะในถ้วยโปรตุเกส 27 ครั้ง ชนะในลีกคัพของโปรตุเกส 3 ครั้ง และชนะในซูเปอร์คัพของโปรตุเกส 4 ครั้ง สำหรับการแข่งขันระหว่างประเทศ ไบฟีกาชนะในการแข่งขันยูโรเปียนคัพ 1960–61 และ 1961–62 นอกจากนั้นยังเป็นรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1961 และ 1962 และเป็นรองชนะเลิศในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 1962–63, 1964–65, 1967–68, 1987–88 และ 1989–90 และรองชนะเลิศในยูฟ่าคัพ 1982–83
และเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศโปรตุเกส โดยเบนฟิก้าได้รับเลือกจาก IFFHS ให้เป็นสโมสรฟุตบอลยุโรปที่ประสบความสำเร็จมากที่ในศตวรรษที่ 20 เป็นอันดับที่ 9 และฟีฟ่ายังให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดเป็นอันกับที่ 12 ของโลก
สัญลักษณ์ของทีมเป็นนกอินทรีโดยทีมสปอร์ต ลิสบอน หรือ เบนฟิก้า
ลงเล่นในนัดแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 1905 ได้รับชัยชนะตั้งแต่ลงแข่งขันในครั้งแรก และกับมีเพื่อนเล่นบางกลุ่มที่ไม่ได้รู้สึกดีใจไปด้วยกับทีมเพราะว่าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย ที่ต้องลงแข่งขันฟุตบอลในสนามที่สุดห่วยของสโมสร ณ ตอนนั้น เนื่องจากนามฟุตบอล Terras do Desembargador ที่ในตอนนั้นเป็นสนามดิน จึงส่งผลให้ผู้เล่นในทีมทั้ง 8 คนย้ายไปเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลคู่แข่งอย่างทีม สปอร์ตติ้ง ลิสบอน ในปี 1907
ในปีต่อมาอย่างในวันที่ 13 กันยายน 1908 สโมสรฟุตบอลสปอร์ต ลิสบอน ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น สปอร์ต ลิสบอน อี เบนฟิก้า จากการที่สโมสรเข้าไปเทคโอเว่อร์บริษัทกีฬาอย่าง Grupo Sport Benfica และพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไปใช้สนามฟุตบอลแห่งแรกของพวกเขาอย่าง กัมโปเดอเซตูริออส ในปี 1913 แต่พวกเขาก็ได้รับปัญหาจากการเช่าพื้นที่ในการใช้สนามฟุตบอลของพวกเขาที่โดนโกงราคามากขึ้นถึงเท่าตัว ทำให้ในปี 1925 เบนฟิก้าได้ย้ายไปยังสนาม อิสตาดิโอ ดาส อโมไรเรส ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะได้ย้ายไปใช้สนาม อิสตาดิโอ ดิ แคมโพ แกรน ที่เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ของเมือง ลิสบอน
ผลงานของทัมสโมสร เบนฟิก้า
ลีกโปรตุเกส เริ่มเมื่อในปี 1934 และทีมเบนฟิก้าก็ได้ลงแข่งขันฟุตบอลลีกครั้งแรกในปีนั้นด้วย จนทีมไปจบอันดับที่สามในฤดูกาลแรก ก่อนที่ใน 3 ปี ถัดมาสโมสรเบนฟิก้าจะคว้าแชมป์ 3 ปีติดต่อกันอย่างในปี 1935/1936,1936/1937,1937/1938 ก่อนที่ในอีก 2 ปีต่อมาจากการคุมทัพของ Lippo Hertzka ได้พาเบนฟิก้ากลับสู่ความยิงใหญ่สำเร็จอีกครั้งด้วยการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียรา ลีก้าในปี1941/1942,1942/1943,1944/1945
และแชมป์Taça de Portugal อีก 4 สมัยในปี 1942/1943,1943/1944,1944/1945 และ1948/1949
ปีถัดมา สโมสรเบนฟิก้าได้จ้าง เท็ด สมิธ เข้ามาคุมทัพในช่วง 1950 นั้นจึงส่งผลให้พวกเขาประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติครั้งแรกด้วยการคว้าแชมป์ Latin Cup ก่อนที่ในช่วงปี 1952 สโมสรได้เลือกตั้งประธานคนใหม่อย่าง Joaquim Ferreira Bogalho
เบนฟิก้าชนะในการแข่งขันยูโรเปียนคัพ 1960–61 และ 1961–62 นอกจากนั้นยังเป็นรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1961 และ 1962 และเป็นรองชนะเลิศในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 1962–63, 1964–65, 1967–68, 1987–88 และ 1989–90 และรองชนะเลิศในยูฟ่าคัพ 1982–83
สนามที่ใช้
อิชตาดียูดาลุช (โปรตุเกส: Estádio da Luz) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ อิชตาดียูดูสปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา (Estádio do Sport Lisboa e Benfica) ซึ่งหากแปลตรงตัวจากภาษาโปรตุเกส จะแปลว่า “สนามแห่งแสง” เป็นสนามฟุตบอลในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลไบฟีกา ซึ่งสนามนี้แฟนบอลของไบฟีกา จะเรียกว่า อากาตึดรัล (“อาสนวิหาร”) สนามแห่งนี้เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 รวมทั้งนัดชิงชนะเลิศ โดยก่อนหน้านี้ สนามอิชตาดียูดาลุชเก่าของไบฟีกาเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยความจุถึง 120,000 ที่นั่ง ถูกทำลายทิ้ง และสร้างสนามนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยความจุ 65,400 ที่นั่ง โดยสนามนี้ออกแบบโดยโปปูลูออส บริษัทออกแบบจากสหรัฐ แผนการออกแบบนั้น ทำให้สนามนี้สว่างด้วยแสงจากธรรมชาติ
ผู้เล่น ชุดล่าสุดของ เบนฟิก้า
เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | ผู้เล่น |
1 | GK | บราซิล | เอแดซง |
2 | DF | อาร์เจนตินา | ลีซานโดร โลเปซ |
4 | DF | บราซิล | ลุยเซา (กัปตันทีม) |
5 | MF | เซอร์เบีย | ลูโบมีร์ เฟย์ซา |
7 | MF | ประเทศกรีซ | อันเดรียส ซามาริส |
8 | MF | เนเธอร์แลนด์ | บีลัล โอยด์-ชิคก์ |
9 | FW | เม็กซิโก | ราอุล คีเมเนซ |
10 | MF | อาร์เจนตินา | นีโกลัส ไกตัน (รองกัปตันทีม) |
11 | FW | ประเทศกรีซ | คอนสแตนตินอส มีโตรกลู (ยืมตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลฟูลัม) |
12 | GK | บราซิล | ชูลีอู เซซาร์ |
13 | GK | โปรตุเกส | เปาลู โลปึช |
17 | MF | บราซิล | ชูนัส |
18 | MF | อาร์เจนตินา | เอดูอาร์โด ซัลบีโอ |
19 | FW | โปรตุเกส | เอลิชู |
20 | FW | โปรตุเกส | กงซาลู กัวดึช |
21 | MF | โปรตุเกส | ปีซซี |
22 | MF | เซอร์เบีย | ฟีลิป จูรีซิช |
23 | MF | โมร็อกโก | อาแด็ล ตาอาราบท์ |
24 | MF | อิตาลี | ไบรอัน กริสตันเต |
28 | DF | โปรตุเกส | ซิลวีอู (ยืมตัวมาจาก อัตเลติโกเดมาดริด) |
30 | MF | บราซิล | ตาลิชกา |
31 | MF | บราซิล | วิกตอร์ อังดราจี |
33 | DF | บราซิล | ชาร์ดึล |
34 | MF | โปรตุเกส | อันแดร อัลแมดา |
38 | FW | โปรตุเกส | นูนู ซังตุช |
39 | MF | โมร็อกโก | เมห์ดี การ์เซอลา-กงซาแล็ซ |
40 | MF | โปรตุเกส | ฌูเอา เตย์แชรา |
50 | DF | โปรตุเกส | นึลซง แซแมดู |
– | MF | อาร์เจนตินา | ฟรันโก เกร์บี |
- ประธานสโมสร : ลุยส์ ฟิลิป วิเรียรา
- ผู้จัดการทีม : จอร์กี เชซูส
- ลีก : ปรีไมราลีกา
- 2017–18 : ปรีไมราลีกา , ที่ 2
ผู้จัดการทีมเบฟิก้า
จอร์จ เชซุส หรือชื่อเต็มเขา ฌอร์ฌึ ฟือร์นังดู ปีไญรู ดึ ฌึซุช (โปรตุเกส: Jorge Fernando Pinheiro de Jesus) หรือ ฌอร์ฌึ ฌึซุช เกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1954 ในเมืองอามาโดรา ประเทศโปรตุเกส ในอดีตเขาเคยเป็นนักฟุตบอลชื่อดังคนหนึ่งของโปรตุเกส โดยเขาโด่งดังมากตอนอยู่กับอึชเตรลาดาอามาโดรา สโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งจากเมืองอามาโดรา โดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง และได้หันมาเป็นผู้จัดการทีมแทนตั้งแต่ ค.ศ. 1990
กุนซือที่เคยนำ เบนฟิกา คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส 3 สมัย หวนคุมทีมเหยี่ยวลิสบอน ภาค 2 หวังนำทีมทวงความสำเร็จคืนจากเอฟซี ปอร์โต
จอร์จ เชซุส กุนซือโปรตุเกส เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการกลับมาคุม เบนฟิกา ยักษ์ใหญ่แห่งลีกโปรตุเกส โดยเข้ามาทำหน้าที่แทน บรูโน ลาเก ที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายน ก่อนมอบหมายให้ เนลสัน เวริซิโม ผู้ช่วยโค้ช คุมทีมชั่วคราว นำทีมได้รองแชมป์ลีกโปรตุเกส และรองแชมป์ฟุตบอลโปรตุกัล คัพ หลังแพ้ เอฟซี ปอร์โต ทีมแชมป์ลีก 1-2 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม
กุนซือวัย 66 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า เขากลับมาที่ เบนฟิกา เพื่อต้องการนำทีมประสบความสำเร็จ รวมทั้งมั่นใจว่า เหยี่ยวลิสบอน จะกลับมาทวงแชมป์ทุกใบเหมือนที่เคยทำได้สมัยคุมทีมรอบแรก
เชซุส เคยคุม เบนฟิกา มาแล้ว 1 รอบ ระหว่างปี 2009-2015 พาทีมได้แชมป์พรีไมรา ลีกา 3 สมัย และฟุตบอลถ้วยในประเทศ 6 รายการ ก่อนย้ายไปคุม ฟลาเมงโก ได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งรัฐริโอ ช่วงปลายปี 2019 ต่อด้วยแชมป์สโมสรทวีปอเมริกาใต้ หรือ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส คัพ ตามด้วยรองแชมป์สโมสรโลก หลังแพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน