ประวัติ เนย์มาร์ (เนมา) ผลงาน และเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ ระดับโลก

ประวัตินักฟุตบอล

เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์ (โปรตุเกส: Neymar da Silva Santus Júnior; เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992) หรือรู้จักกันในชื่อ เนย์มาร์ เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และฟุตบอลทีมชาติบราซิลในตำแหน่งกองหน้า ผลจากการย้ายทีมจากรังเก่าอย่าง สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาไปสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ทำให้เนย์มาร์เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโร หรือ 198 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,910 ล้านบาท)

ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ในการแข่งขันรอบแรกนัดสุดท้าย เนย์มาร์เป็นผู้ยิงประตูแรกให้แก่บราซิล ที่พบกับแคเมอรูนในนาทีที่ 17 ซึ่งประตูนี้นับเป็นประตูที่ 100 ของทีมชาติบราซิล และนับเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดที่ 100 ของบราซิลอีกด้วย

แต่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่บราซิลพบกับโคลอมเบีย แม้บราซิลจะเป็นฝ่ายชนะไป 2-1 แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังถึงขั้นร้าวเมื่อปะทะกับฮวน กามีโล ซูญีกา กองหลังของโคลอมเบียที่กระโดดเข้าใส่ที่หลัง ทำให้ต้องหยุดเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ ซึ่งในรอบต่อมาบราซิลก็เป็นฝ่ายแพ้ต่อเยอรมนีไปถึง 1-7 ประตู ทำให้หมดสิทธิที่จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ

ประวัติครอบครัว

เนย์มาร์ เกิดที่ โมกี ดาส ครูเซส เซาเปาโล โดยมีพ่อแม่ชื่อว่า เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซีเนียร์ อดีตนักฟุตบอล และ นาดิเน ซานโตส โดย ปัจจุบัน พ่อของเขา กลายเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของ เนย์มาร์

เนย์มาร์ เติบโตมาพร้อมกับการรักในการเล่นฟุตซอล และ สตรีทฟุตบอล

ในปี 1992 เนย์มาร์ ยังไปอยู่กับ ครอบครัว ที่ เซา บิเซนเต และเป็นจุดเริ่มของการเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับทีม โปรตุเกซา ซานติสตา จากนั้น ในปี 2003 ครอบครัว ย้ายไปที่ เซาเปาโล และ เนย์มาร์ ก็ได้ร่วมทีม ซานโต๊ส เอฟซี ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในเดือนพ.ค.ปี 2011 เนย์มาร์ เพิ่งรู้ว่า ตัวเองมีลูกชาย ชื่อว่า “ดาวี ลุซซี” ซึ่งเกิดเมื่อเดือนส.ค.ปี 2011 กับสาววัย 17 ปี และอีก 4 วันหลังจากนั้น เขาก็ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ตนเอง ว่าเขากลายเป็นพ่อคน เมื่อตอนอายุเพียง 19 ปี อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของหญิงสาวผู้เป็นแม่รายนี้

รูปแบบการเล่นบอลของ Neymar

การเล่นฟุตบอลของเนย์มาร์ เรียกได้ว่ามีจุดเริ่มต้นของการเล่นฟุตซอล ส่งผลต่อการเล่นของเขาอย่างหนักหน่วง การเล่นงานกองหลังที่พลาดเรียกได้ว่าเป็นสกิลที่ทำให้ผู้คนตะลึงซ้ำไปซ้ำมา เนย์มาร์เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเคลื่อนที่ไปจุดใดภายในสนาม จะกลายเป็น The Neymar Show Time เปรียบเสมือนสนามฟุตบอลนั้นเป็นของเขาอย่างแท้จริง ทายาทหมายเลข 10 ของบราซิลนั้นยังคงมนต์ขลัง คำว่า A true phenomenon คงไม่เกินเลยไปจากบุคคลนี้

คุณสมบัติหลัก คือ ความคิดสร้างสรรค์วิสัยทัศน์การผ่านบอล การเลี้ยงลูกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยกลลวง ถึงแม้จะถนัดเท้าขวา แต่สามารถทำประตูได้จากเท้าทั้ง 2 ข้าง นอกจากนี้ยังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมีทัศนคติที่ดีมากสิ่งต่าง ๆเหล่านี้หลอมรวมให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง

ทักษะทางด้านฟุตบอล

ประสิทธิภาพในการเล่นที่ยอดเยี่ยมรวมกับการเคลื่อนไหวเหมือนปลาในสายน้ำเมื่อยามที่มีลูกฟุตบอลอยู่กับเท้า ความน่ากลัวของเนย์มาร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านเกมรุกในวงการลูกหนัง เคลื่อนไหวได้ราวกับการเต้นรำแบบแซมบ้า หรือ คาโปเอร่า ที่เป็นศิลปะการต่อสู้ชั้นสูงชาติบราซิลที่ผสมผสานกับเสียงเพลง (การเตะบอลก็คือการต่อสู้ในสนามผืนหญ้า)

ความนึกคิดที่รวดเร็วในการเข้าทำมาจากการเล่นฟุตซอลอย่างชัดเจน The Neymar Show แบบเต็มรูปแบบ จะถูกนำออกมาใช้ไม่ว่าจะเป็น Neymar’s Rolling , Lambretta หรือ Rainbow Flick ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าเรามีความเชื่อและเต็มที่ หากต้องการจะทำอะไรเราก็จะสามารถทำได้ เล่นบอลทั้งเท้าซ้ายและขวา

สัญชาตญาณการทำประตู

เรียกได้ว่าการครองบอลที่ยอดเยี่ยม ย่อมมากับการพิฆาตสังหารประตูที่ค่อนข้างมั่นใจได้ การทำประตูของเนย์มาร์ เรียกได้ว่าเมื่อมีโอกาส จะได้ประตูค่อนข้างแน่นอน ถ้าหากหยิบเอาสถิตในตอนที่อยู่กับบาเซโลนา เนย์มาร์มีส่วนร่วมในการทำประตูทั้งหมด 164 ประตู จาก 186 เกม แต่ถ้าหากนับเฉพาะส่วนตัวที่เนย์มาร์ยิงได้อยู่ที่ 105 ประตู (0.56) เท่ากับว่าทุก ๆ 2 เกมการแข่งขัน เนย์มาร์จะยิงได้ 1 ประตู ส่วนถ้ามองแค่สถิติของ UCL ของดาวเตะแซมบ้ารายนี้ 30 ประตู, 49 นัด

ทักษะในการจ่ายบอล

แม้ว่าการเลี้ยงบอลของเนย์มาร์จะโดดเด่น แต่การจ่ายบอลก็ยอดเยี่ยมไม่น้อย หากมองในการจ่ายบอล ค่าเฉลี่ยการทำ Assist ของเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 10 กว่าครั้งต่อ 1 ฤดูกาล แม้จะไม่มีการจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาส แต่การจ่ายบอลของเขาบางครั้งก็อยู่นอกเหนือจินตนาการของคู่ต่อสู้ไปไกลทีเดียว

เส้นทางสายนักเตะของเนย์มาร์

อย่างที่รู้กันดีว่า Neymar Santos Sr ผู้เป็นพ่อลงมือสอนให้ Neymar Jr ด้วยตัวเอง ที่เริ่มจากการเล่นฟุตซอล และ ไปต่อที่การเล่นบอลออาชีพ นักฟุตบอลตามแบบฉบับดั้งเดิมเชื้อสายบราซิลแท้ ๆ ด้วยการเล่นฟุตบอลข้างถนน ของเนย์มาร์ในวัย 6 ขวบ ที่วิ่งขึ้น-ลง บันไดบนอัฒจันทร์(ไปดูการแข่งขันของพ่อ) กับ สเต็ปการวิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ ภายใต้การจ้องมองกับทุกกิริยาที่แสดงของมาให้เห็น ของ เบตินโญ่ แมวมองของทีมฟุตซอลประจำเมือง

ประวัติในการเล่นให้กับ Portuguesa Santista

ลงทัวร์นาเม้นท์ของการเล่นฟุตซอลครั้งแรกก็จบด้วยการเป็นดาวซัลโว ตอนอายุ 7 ขวบ และ คว้าแชมป์ โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตซอลช่วงระยะเวลาหนึ่งและทำสถิติต่อเนื่องของการแข่งขันในแต่ละทัวร์นาเม้นท์

บทความแนะนำ เนย์มาร์ซัดโทษปิดกล่อง! "บราซิล" เปิดรังอัด "เอกวาดอร์" 2-0

เส้นทางสายนักเตะของเนย์มาร์

ประวัติในการเล่นให้กับ Portuguesa Santista

เส้นทางสายนักเตะของเนย์มาร์

อย่างที่รู้กันดีว่า Neymar Santos Sr ผู้เป็นพ่อลงมือสอนให้ Neymar Jr ด้วยตัวเอง ที่เริ่มจากการเล่นฟุตซอล และ ไปต่อที่การเล่นบอลออาชีพ นักฟุตบอลตามแบบฉบับดั้งเดิมเชื้อสายบราซิลแท้ ๆ ด้วยการเล่นฟุตบอลข้างถนน ของเนย์มาร์ในวัย 6 ขวบ ที่วิ่งขึ้น-ลง บันไดบนอัฒจันทร์ (ไปดูการแข่งขันของพ่อ) กับ สเต็ปการวิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ ภายใต้การจ้องมองกับทุกกิริยาที่แสดงของมาให้เห็น ของ เบตินโญ่ แมวมองของทีมฟุตซอลประจำเมือง

ประวัติในการเล่นให้กับ Portuguesa Santista

เส้นทางสายนักเตะของเนย์มาร์

ประวัติในการเล่นให้กับ Portuguesa Santista

ประวัติในการเล่นให้กับ Santos

ราชาลูกหนังโลก เปเล่ ได้เป็นผู้ที่ดึงให้เนย์มาร์เข้ามาอยู่ในทีมซานโตส โดยบอกกับ อันโตนิโอ ลิม่าโค้ชเยาวชนคนแรกของเนย์มาร์ว่า เรามีปัญหาแล้วเพราะผมได้เจอกับเด็กอัจฉริยะเข้า แต่ไม่มีทีมให้เข้าเล่น เพราะอายุแค่ 13 ปี อันโตนิโอ จึงได้สร้างทีมชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 15 โดยมีเนย์มาร์อยู่ในชุดนั้นด้วย การแข่งขันที่สร้างความประทับใจแมวมองทีม เรอัลมาดริด คือ นัดที่พบกับ เซา แบร์นาโด้ ซึ่งเป็นทีมชุดเยาวชนที่ แข็งแกร่งอันดับต้นของตาราง เนย์มาร์ทำประตูได้ในขณะที่พึ่งเป่านกหวีด และ ผู้จัดการทีมยังจับมือกันอยู่ จากนั้นเกมก็อยู่ในการควบคุมของทีมซานโตสจนจบเกม

อายุ 14 ปีเนย์มาเดินทางไปสเปนเพื่อเข้าร่วมเล่นกับทีมเยาวชนเรอัลมาดริด ในขณะที่มีสตาร์ดาวดัง Ronaldo, Zinedine Zidane, David Beckham, Roberto Carlos และ Robinho อยู่ในทีม หลังจากนั้น เนย์มาร์ได้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกของเขากับ ซานโตส ในอีก 3 ปี และ เป็นนักเตะที่มีอิทธิพลต่อทีมมากระดับหนึ่งทีเดียว สิ่งที่ทำให้เนย์มาร์จดจำอีกอย่างหนึ่ง คือ การนำทีมคว้าแชมป์โคปา ลิเบร์ตาดอเรส ในงานวันเกิดของเนย์มาร์ ทุก ๆปี บุคลากรของซานโตส (พ่อครัว, เจ้าหน้าที่สนาม, เจ้าหน้าที่ดูแลชุดแข่ง) จะได้รับเชิญไปทานข้าวฉลองวันเกิดด้วยทุกครั้ง เพราะเขาถือว่าทีมประสบความสำเร็จได้ก็มีส่วนมาจากบุคลากรเหล่านี้ เมื่อขึ้นสู่ทีมชุดสโมสรอาชีพซานโตส

ในปี 2009 เปิดตัวลงแข่งขันด้วยอายุ 17 ปี เนย์มาร์ ในวันที่ 7 มีนาคม 2009 ซึ่งเนย์มาร์ทำได้ 14 ประตูจากการลงแข่งขัน 48 นัด

ในปี 2010 เนย์มาร์ได้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับเปเล่ ในนัดที่ Santos ชนะ Guarani ไป 8-1 โดยยิงไปทั้งสิ้น 5 ประตู ทำให้สโมสรได้ครองตำแหน่งแชมป์เปี้ยน เป็นปีที่ เวสต์แฮมยูไนเต็ดตัดสินใจเสนอการซื้อขาย 12 ล้านปอนด์ (เป็นการเสนอที่แพงที่สุดของเวสต์แฮมยุคนั้น) และ เชลซีตัดสินใจเสนอการซื้อขายเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านปอนด์ เช่นกัน

ในปี 2011เนย์มาร์นำชัยชนะครั้งแรกของ Copa Libertadores กลับคืนสู่สโมสรหลังจากที่เคยทำได้ในสมัยที่เปเล่อยู่เมื่อปี 1963 และ ได้รับรางวัล Puskás Award

ในปี 2012 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2012 เมื่อเขาอายุครบ 20 ปี เนย์มาร์ทำประตูที่ 100 ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ และ ได้รับการโหวต ว่าเป็น Best player และ Best Forward ได้รับรางวัล Golden Ball, Arthur Friedenreich Award, Armando Nogueira Trophy และ ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอเมริกาใต้

ในปี 2013 เนย์มาร์ได้ลงแข่งให้กับซานโตสเพียง 1 เกมภายในลีกการแข่งขันเท่านั้นก่อนที่จะบรรลุข้อสัญญาในการย้ายทีมไปยังบาเซโลนา ซึ่งการเล่นภายใต้ทีมซานโตสนั้นเกิดขึ้นอย่างสวยงามและจบลงด้วยการคว้าแชมป์ Campeonato Paulista 3 สมัยติดในปี 2010, 2011, 2012 ก่อนย้ายทีมในปี 2013

บทความแนะนำ เส้นทางแข้งทองของ คริสเตียโน โรนัลโด ประวัติ ผลงาน สถิติการยิง

ประวัติในการเล่นให้กับ Barcelona

การย้ายทีมเข้าสู่บาเซโลนาของเนย์มาร์อยู่ที่ 57 ล้านยูโร และ มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 190 ล้านยูโร เนย์มาร์ยิงประตูแรกการแข่งขัน Thailand XI ในวันที่ 7 สิงหาคม เป็นช่วงเวลาของการปรับตัวให้เข้ากับสโมสร ของช่วง Pre-Season ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักบอลบราซิล ที่โตมากับการกินข้าว, ถั่ว และ ฟาโรฟา, ขนมปัง และเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ต้องเข้าโปรแกรมในการควบคุมอาหาร เสริมสร้างวิตามิน ,โปรตีน และ ระบบขับถ่าย

ในฤดูกาล 2013-14 การแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเนย์มาร์ คือ การลงไปแทนอเล็กซิสซานเชซ ในเกมที่พบกับเลบานเต้ โดยชนะไปในสกอร์ 7-0 และ ศึก El Clásico ครั้งแรกของเขาทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิส ทำให้ชนะเรอัลมาดริดไป 2-1 จากนั้นก็ ยิงแฮตทริกในรายการ UEFA Champions League ในวันที่ 11 ธันวาคม

ในฤดูกาล 2014-15 เนย์มาจบฤดูกาลด้วย 39 ประตูในทุกการแข่งขัน ทำให้การโจมตีสามคนของ Messi, Luis Suárez และ Neymar ได้รับการขนานนามว่า “MSN” จบลงด้วย 122 ประตู

ในฤดูกาล 2015-16 เนย์มาร์ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมงาน FIFA Ballon d’Or และได้รับรางวัลเป็นลำดับที่ 3 Messi, Suárezและ Neymar จบสกอร์รวมกันด้วย 131 ประตู

ในฤดูกาล 2016-17 การคัมแบ็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแชมเปี้ยนส์ลีก ชัยชนะเหนือปารีสแซงต์แชร์กแมงใน 6-1 หลังจากนัดก่อนหน้านี้พ่ายแพ้ไป 4-0 ด้วยการทำ 2 ประตู ซึ่งก่อนหน้าเกมการแข่งขัน เขาได้กล่าวไว้ในห้องแต่งตัวว่า “ฉันจะยิงสองประตู และเป็นส่วนสำคัญในการพาเรากลับมาให้ได้”

เขายิงประตูที่ 100 ให้กับสโมสรในเกมที่พบกับ กรานาด้าในเดือนเมษายน เป็นจำนวน 177 นัด ซึ่งเวลาน้อยกว่าเมสซี่ 9 นัด และมีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นที่ยิงครบ 100 ประตูให้กับ บาร์ซ่าได้เร็วกว่า และ ลงแข่งเป็นจำนวน 186 นัด กับ 105 ประตู ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยค่าตัวที่แพงมากที่สุดของประวัติศาสตร์ 222 ล้านยูโร ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสนอการซื้อขายจากทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 228 ล้านยูโร ก็ตาม (ตกลงกับพ่อเนย์มาร์ไม่ได้)

สาเหตุที่เขาตัดสินใจย้ายทีม ที่คาดไว้อาจจะเพราะว่า เมสซี่ได้ต่อสัญญากับบาร์เซโลนา และ เปแอสเช ได้ยื่นโอกาสให้ เนย์มาร์ ได้เป็นสตาร์ด้วยการเป็นดวงดาวที่โดดเด่นเหนือใคร

ประวัติในการเล่นให้กับ Paris Saint-Germain

Neymar เข้าร่วมสโมสร ในเบอร์ 10 กับค่าตัวแห่งประวัติศาสตร์ที่ทิ้งอันดับอื่น ๆอย่างไม่เห็นฝุ่น การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ผู้เล่นแนวรุกที่ส่งผลกระทบต่อทุก ๆเกมการแข่งขัน หนึ่งในตำนานของ บราซิลกล่าวว่า เนย์มาร์ คือ ผู้เล่นที่ดีที่สุด เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ 7 ของโลก ในการเข้ามาอยู่กับปารีส Neymar จะเล่นกับ Kylian Mbappé และ Edinson Cavani นับว่าเป็นอีกคู่ประสานงานที่ยอดเยี่ยมกับการที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งในสัญญาเนย์มาร์จะอยู่เป็นเวลา 5 ปี

ในฤดูกาล 2017-18 การเล่นของเนย์มาร์ไม่ได้หวือหวามากนัก จบฤดูกาลแรกของเขาในปารีสด้วย 28 ประตูใน 30 นัด ค่าเฉลี่ยการยิงประตูอยู่ที่ 0.93 ประตู/เกม เรียกได้ว่าทุก ๆเกมการแข่งขันยิงได้เกือบทุกนัด

ในฤดูกาล 2018-19 Neymar พึ่งทำ Hattrick ในรายการ Champions League กับทีม Red Star Belgrade ด้วยสกอร์ 6-1ก่อนที่จะเสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่ตกรอบด้วยกฎการยิงประตู

ประวัติในการเล่นให้กับ ทีมชาติบราซิล

26 กรกฎาคม 2010ได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลระดับทีมชาติ วันที่ 10 สิงหาคม 2010 เขาได้เปิดตัวกับทีมชาติ ด้วยอายุ 18 ปี

เนย์มาร์เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของการแข่งขันชิงแชมป์เยาวชนอเมริกาใต้ ปี 2011 Olympic Football ที่กรุงลอนดอน ปี 2012 Neymar ทำ Hattrick ในการชนะจีน 8-0 เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เชิดฉาย

ในปี 2013 ด้วยเบอร์ 10 และ รับรางวัล Golden Ball ประจำทัวร์นาเม้นท์

ปี 2014 ฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล Neymar ซัด Hattrick ในการแข่งขันกับทีมแอฟริกาใต้ ลงแข่งในนามทีมชาติครบ 50 ครั้งที่รายการแข่งขันครั้งนี้ ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัล Golden Ball ประจำทัวร์นาเม้นท์นี้ โดยได้รับเป็น Bronze Boot

ปี 2015 เมื่อวันที่14 ตุลาคม 2014 เนย์มาร์ยิง 4 ประตูในนามทีมชาติ เอาชนะญี่ปุ่นไป 4-0 ทำให้เป็นนักเตะอายุ 22 ปี ที่ทำ 40 ประตูในนามทีมชาติจากการลงสนาม 58 ครั้ง รายการนี้ บราซิลแพ้โคลัมเบีย 0-1 จากที่เนย์มาร์ทำแฮนด์บอลในจังหวะที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีด ด้วยเหตุที่เกิดนี้เขาจึงเตะบอลใส่ Pablo Armero ซึ่งทำให้เขาได้รับใบแดง และ โดนแบนตลอดระยะเวลาการแข่งขันที่เหลือพร้อมปรับเงินอีก 10,000 ดอลลาร์

บทความแนะนำ chanathip songkrasin นักฟุตทีมชาติไทย ประวัติความเป็น ผลงาน

ปี 2016 Summer Olympics เนย์มาร์เป็นผู้เล่นหนึ่งในสามที่มีรายชื่ออายุเกิน 23 ปี รอบชิงชนะเลิศกับเยอรมนี เกมจบ 1-1 และ ดวลจุดโทษโดยที่เนย์มาร์เป็นผู้สังหาร และ เอาชนะทำให้ได้เหรียญทองโอลิมปิก ทำสถิติยิงเร็วสุดในกีฬาโอลิมปิก ด้วยเวลาแค่ 14 วินาทีเท่านั้นในเกมพบ ฮอนดูรัส

ปี 2018 ในวันที่ 3 มิถุนายน 2018 เขายิงประตูที่ 55 เท่ากับ Romário ในนัดกระชับมิตรกับออสเตรีย และ 22 มิถุนายน เป็นการสร้างสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 3 เป็นรองอันดับ 1 และ 2 อย่างเปเล่และโรนัลโด เพียงไม่กี่ประตูเท่านั้น

ผลงานและรางวัลที่เคยได้รับ

ทีมซานโตส

แชมป์การแข่งขันฟุตบอลลีกบราซิล ปี 2010, 2011 และ 2012

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Copa do Brasi ปี 2010

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Copa Libertadores ปี 2011

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Recopa Sudamericana ปี 2012

ทีมบาร์เซโลน่า

แชมป์การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา ฤดูกาล 2014–15 และ 2015–16

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Supercopa de Espana ปี 2013

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Copa del Rey ฤดูกาล 2014–15, 2015–16 และ 2016–17

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล UEFA Champions League ฤดูกาล 2014–15

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล FIFA Club World Cup ปี 2015

ทีมปารีสแซ็ง-แฌร์แม็ง

แชมป์การแข่งขันฟุตบอลลีกเอิง Ligue 1 ฤดูกาล 2017-18 และ 2018-19

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Coupe de France ฤดูกาล 2017–18

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Coupe de la Ligue ฤดูกาล 2017–18

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Trophée des Champions ปี 2018

ทีมชาติบราซิล

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล Superclasico de las Americas ปี 2011 และ 2012

รองชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอล (Silver Medal) Olympic ปี 2012

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล FIFA Confederations Cup ปี 2013

แชมป์การแข่งขันฟุตบอล (Gold Medal) Olympic Summer ปี 2016

รางวัลส่วนตัว

ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของรายการ Campeonato Brasileiro Série A ปี 2010, 2011, 2012

รางวัล Chuteira de Ouro (รองเท้าทองคำ) ของรายการ Campeonato Brasileiro Série A ปี 2010, 2011, 2012

Bola de Prata ปี2010, 2011

Bola de Ouro ปี 2011

ผู้เล่นที่ดีที่สุด Campeonato Brasileiro Série A ปี 2011

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอลโลกปี 2011

ได้รางวัล FIFA Puskás Award ปี 2011

South American Footballer of the Year ปี 2011, 2012

La Liga Best World Player ฤดูกาล 2014–15

ทีมยูฟ่าแห่งปี 2015

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกทีมแห่งฤดูกาล 2014-15

ประวัติ เนย์มาร์ (เนมา) ผลงาน และเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ ระดับโลก

ประวัตินักฟุตบอล

ประวัติครอบครัว