เมสัน เมาท์ ซัดจุดโทษช่วยให้ เชลซี ตามตีเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 โดยเกมนี้ ทาคูมิ มินามิโนะ มิดฟิลด์ซามูไรโชว์คลาสเหนือชั้นยิงให้ทีม “นักบุญ” ขึ้นนำไปก่อนช่วยทีมหยุดสถิติย่ำแย่หลังแพ้มา 6 เกมรวด ขณะที่ทีม “สิงห์บลูส์” หยุดสถิติคว้าชัยไว้ที่ 4นัดรวดยังรั้งที่ 4 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เซาธ์แฮมป์ตัน 1 – เชลซี 1
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564
สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม
ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล กุนซือเซาธ์แฮมป์ตัน เกมนี้ไร้ชื่อของ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส แบ็กขวาตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บ โดยส่งโมฮัมเหม็ด ซาลิซู ลงเล่นแทน ขณะที่คู่หน้าวาง แดนนี่ อิงส์ กับ นาธาน เร้ดมอนด์ ล่าตาข่าย ขณะที่ เชลซี ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล เกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นบางตำแหน่งส่ง เคิร์ท ซูม่า ลงเล่นเป็นตัวจริง ขณะที่สามแนวรุกวาง ติโม แวร์เนอร์, เมสันเมาน์ท และ แทมมี่ อับราฮัม ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
ครึ่งแรก
เป่าเริ่มเกมได้เพียง 6 นาที เป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้ทักทายก่อน เมสัน เมาน์ท ขึ้นเกมมาทางขวา ก่อนจะแทงบอลมาให้ รีซ เจมส์ ที่วิ่งเติมขึ้นมา แล้วเปิดให้ มาร์กอส อลอนโซ่ เอาบอลลง แล้วสับไก บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
เกือบครึ่งชั่วโมง เชลซีเป็นฝั่งครองเกมได้มากกว่าอย่างชัดเจน นาที 29 อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เห็นจังหวะมีช่อง ลองสับไกกว่า40 หลา แต่บอลก็ไปเข้ามือของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่
แต่ทว่าหลังจากนั้นอีก 3 นาที เป็นจังหวะสวนกลับมาของเจ้าถิ่น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ จ่ายมาให้ นาธาน เร้ดมอนด์ ลาก
จากกลางสนาม ก่อนจะจ่ายให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ที่ยืนโล่งๆ ก่อนจะล็อกหลบ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ นายด่านอย่าง เอดูอาร์เมนดี้ แล้วจิ้มบอลด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเลือดเย็น เซาธ์แฮมป์ตัน ออกนำไปก่อน 1-0
ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 39 เชลซี เกือบได้ลุ้นตีเสมอ จากจังหวะ เปิดบอลจากลูกฟรีคิกมา มาถึง เคิร์ต ซูม่า ได้ขึ้นโขก แต่โชคดีที่อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ยืนตำแหน่งดี จึงรับบอลไว้ได้ จบครึ่งแรก “นักบุญ” เจ้าบ้านขึ้นนำไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลังมาเป็นฝั่ง เชลซี ที่โหมบุกเข้าใส่ หวังทวงประตูคืน จนมาถึงนาที 51 ติโม แวร์เนอร์ ลาบอลมาทางซ้ายหลุดเข้ากรอบไปสุดเส้นหลัง ก่อนจะยิงยัด แต่บอลก็ออกไปเสียก่อน
หลังจากนั้นอีก 2 นาที “สิงห์บลูส์” มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ แดนนี่ อิงส์ สไลด์ใส่ เมสัน เมาน์ท โดนข้อเท้าเต็มๆ แอนโธนี่เทย์เลอร์ เป่าให้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ เมสัน เมาน์ท จะลุกขึ้นมารับบทเป็นเพชรฆาตซัดบอลด้วยซ้ายเข้าไป อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่พุ่งไปผิดทาง บอลเข้าไปซุกตาข่าย เชลซี ไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้
นาที 71 “นักบุญ” เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากเตะมุมมาโดย นาธาน เร้ดมอนด์ เปิดบอลเข้ามา ยานนิค เวสเตอการ์ด ได้โขกโล่งๆ บอลชนคานสนั่น เอดูอาร์ เมนดี้ ได้แต่ยืนมอง แต่ก็ยังเป็นดชคดีของทีมเยือนที่มีคานช่วยเอาไว้
ต่อมาอีก 5 นาที “สิงโตน้ำเงินคราม” มีการขยับตัวผู้เล่น 2 คนสุดท้ายโดยส่ง จอร์จินโญ่ กับ ฮาคิม ซิเยค ลงมาแทนที่ของ มาเตโอ โควาซิช กับ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองได้ในครึ่งหลัง เพื่อปรับเปลี่ยนเทคติก เช่นเดียวกับทางฝั่งเจ้าบ้านที่ถอด ทาคูมิ มินามิโนะ ผู้ทำประตูให้ทีมขึ้นนำออก แล้วส่ง นาธาน เทลล่า ดาวรุ่งวัย 21 ปีลงสนาม
นาที 84 เป็นโอกาสของทีมเยือน เมสัน เมาน์ท เบียดแย่งบอลจาก มูสซ่า เฌเนโป ก่อนจะเปิดมาให้ รีซ เจมส์ ได้ซัด แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้เพิ่ม จบเกม เชลซี บุกมาแบ่งแต้ม เซาธ์แฮมป์ตัน ถึงถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ไปด้วยสกอร์ 1-1ทำให้ “นักบุญ” หยุดสถิตแพ้ในลีกติดต่อกัน 6 เกม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เซาธ์แฮมป์ตัน : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ – โมฮัมเหม็ด ซาลิซู, แยน เบ็ดนาเร็ก, ยานนิค เวสเตอการ์ด – มูสซ่า เฌเนโป, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โอริโอล โรเมว ,ไรอัน เบอร์ทรานด์ – ทาคูมิ มินามิโนะ, นาธาน เร้ดมอนด์ – แดนนี่ อิงส์
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เคิร์ต ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช,มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาน์ท, ติโม แวร์เนอร์ – แทมมี่ อับราฮัม
