สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส (อิตาลี: Juventus Football Club ) เป็นสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตูริน เป็นสโมสรเก่าแก่สโมสรหนึ่งของประเทศอิตาลี โดยก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1897 (พ.ศ. 2440) ประสบความสำเร็จมากมาย อีกทั้งยังเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยุโรปทั้งสามรายการ คือ ยูโรเปียนคัพ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก), ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ และยูฟ่าคัพ
ยูเวนตุส เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน เซเรียอา ได้แชมป์ถึง 35 สมัย แชมป์ โกปปาอีตาเลีย 13 สมัย แชมป์ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา อีก 6 สมัย แชมป์ ยูโรเปียนคัพ 2 สมัย และ แชมป์ ยูฟ่าคัพ 3 สมัย ในช่วงปัจจุบัน (ตั้งแต่ฤดูกาล 2011-2012 เป็นต้นมา) ถือว่าเป็นช่วงที่สโมสรประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยได้แชมป์เซเรียอาติดต่อกันถึง 8 สมัย ขณะที่ผู้เล่นคนสำคัญส่วนใหญ่อายุเลย 30 ปีแล้วทั้งนั้น สำหรับยูเวนตุส เดิมแฟนฟุตบอลชาวไทยจะอ่านออกเสียงว่า “จูเวนตัส” จะเรียกฉายาในภาษาไทยว่า “ม้าลาย” หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า “ยูเว่” ส่วนฉายาในภาษาอิตาลี คือ “La Vecchia Signora” ซึ่งแปลได้ว่า “หญิงชรา”
ปัจจุบันสื่อต่างประเทศจะเรียกทีมสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสว่า Bianconeri (ขาว-ดำ) Juve (เด็กสาว) และ Le Zebre (ม้าลาย) ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่เป็นสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่ของลีกอิตาลี กัลโช ซีเรียอา มาตรฐานของทีมสม่ำเสมอตลอดเวลา ทั้งยังมีเรื่องราวสุดดราม่าจากการปรับตกชั้นและก้าวขึ้นสู่ความเป็น King of Serie A ราวกับว่านี่เป็นเหมือนอีกหนึ่งเทพนิยายของวงการฟุตบอลก็ว่าได้
ช่วงเวลาก่อตั้งทีม เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรยูเวนตุส
ยูเวนตุสก่อตั้งขึ้นปี ค.ศ. 1897 ในชื่อ สปอร์ต คลับ ยูเวนตุส โดยมีนักเรียนที่ชื่อ มัสซิโม เด’อาเซกีโล ที่ศึกษาอยู่ที่เมืองตูรินเป็นผู้ก่อตั้ง และก็ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นเป็น สโมสรฟุตบอลยูเวนตุสในเวลาอีกสองปีถัดมา. สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขัน อิตาเลียนฟุตบอลแชมเปียนส์ชิพ (ปัจจุบันคือเซเรียอา) ในช่วงปี ค.ศ. 1904 ซึ่งใช้ชุดแข่งสีดำและสีชมพูเป็นชุดเหย้าในการแข่งขันและใช้สนามเวโลโดรโมอัมเบรโต เป็นสนามเหย้าในการแข่งขัน ยูเวนตุสได้แชมป์ในรายการนี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1905.แล้วในช่วงเดียวกันนั้นสโมสรได้เปลี่ยนสีประจำทีมจะเป็นสีขาวและสีดำลายทางและกางเกงสีดำ ซึ่งถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนสโมสรฟุตบอลในประเทศอังกฤษอย่าง สโมสรฟุตบอลนอตส์เคาน์ตี
ในปี ค.ศ. 1906 สโมสรได้มีการแยกทางกับพนักงานของสโมสรและนักเตะบางส่วนออกไปเนื่องจากต้องการออกไปจากเมืองตูริน. เมื่อประธานสโมสรอัลเฟรโดทราบเหตุการณ์ท่านกังกลใจและไม่มีความสุขเพราะขาดนักเตะหลักในการเล่นกับ สโมสรฟุตบอลโตริโน สโมสรร่วมเมืองเดียวกันในเกมส์ ดาร์บีเดลลาโมเลและหลังจากนั้นได้ไม่นานก็ได้เกิดสงครามโลกขึ้นอีกทำให้นักเตะต่างได้แยกย้ายออกจากทีมเพื่อหลบหนี้ภัยสงครามเป็นจำนวนมาก ยูเวนตุสใช้เวลานานในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่องหลังจากจบ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เจ้าแห่งวงการลูกหนังอิตาลี
หลังจากนั้นเจ้าขององค์กรธุรกิจรถยนต์(เฟียต)ในเมืองตูรินอย่าง เอโดอาร์โด อเกลลี ได้เข้ามาควบคุมกิจการของสโมสรในช่วงปีค.ศ. 1923และได้มีการสร้างสนามเหย้าใหม่ขึ้น พวกเขาได้ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1926 ด้วยการชนะ อัลบา โรมา ไปถึง 12-1, ด้วยการยิงของ อันโตนีโอ โวจาค ซึ่งเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของฤดูกาล 1925-26.หลังจากนั้นสโมสรได้เป็นกำลังสำคัญในวงการฟุตบอลอิตาลีตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมาและได้กลายเป็นสโมสรมืออาชีพครั้งแรกของประเทศและเป็นสโมสรแรกที่มีแฟนคลับกระจายอยู่หลายประเทศ ในขณะนั้นสโมสรอยู่ภายใต้การคุมทีมของ การ์โล การ์ซาโน อดีตผู้จัดการทีมชาตอิตาลี ซึ่งเขาสามารถนำยูเวนตุสได้แชมป์ลีกในระดับประเทศได้ถึง 4 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 ถึง ค.ศ. 1934 และในช่วงนั้นมีนักเตะระดับสตาร์ชื่อดังมากมายของสโมสรอาทิเช่น ไรมุนโด ออร์ซิ, ลูอิกี เบอร์โทลินี, จิโอวานนี เฟอร์รารี, ลุยส์ มอนตี และอื่น ๆ อีกมากมาย
ลิปปีผู้นำความสำเร็จ
มาร์เชลโล ลิปปีได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรโดยเริ่มคุมทีมตั้งแต่ฤดูกาล 1994-95 ฤดูกาลของเขากับยูเวนตุสก็สามารถนำทีมคว้าแชมป์เซเรียอาได้สำเร็จซึ่งครั้งล่าสุดที่สโมสรได้คือในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 โดยมีผู้เล่นชื่อดังหลายคนอาทิเช่น ซีโร เฟอร์รารา, โรแบร์โต บักโจ้, จีอันลูกา วีอัลลี และนักเตะเยาวชนะชื่อดังอย่าง อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร.ลิปปีสามารถนำสโมสรเขาไปเล่นแชมเปียนส์ ในฤดกาล 1995-96 ซึ่งเขานำยูเวนตุสไปถึงรอบชิงชนะเลิศกับสโมสรเอเอฟซีอาแจ็กซ์ผลออกมาเสมอกันไป 1-1 โดยยูเวนตุสได้จาก ฟาบรีซีโอ ราเวเนลลี ก่อนที่จะชนะด้วยการดวลลูกโทษไป 2-4 แล้วทำให้สโมสรคว้าแชมป์มาได้เป็นสมัยที่ 2
มาร์เชลโล ลิปปี นำยูเวนตุสคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 13 รายการ
หลังจากคว้าแชมป์ยุโรปได้ไม่นาน มาร์เชลโล ลิปปี สโมสรได้เสริมทัพด้วยการซื้อผู้เล่นชื่อดังที่มีประสิทธิภาพหลายคนอาทิเช่น ฟีลิปโป อินซากี, ซีเนดีน ซีดาน, เอ็ดการ์ ดาวิดส์.ซึ่งผลจากการซื้อผู้เล่นใหม่มาทำให้สโมสรคว้าแชมป์เซเรียอาได้ใน 1996-97 และ 1997-98 และในช่วงเดียวกันนั้นสโมสรก็สามารถคว้าแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปและอเมริกาใต้ และ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ได้ในปี ค.ศ. 1996.ต่อมาในปี ค.ศ. 1997 และปี ค.ศ. 1998 สโมสรสามารถเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ถึง 2 รอบ แต่ก็ได้แค่รองแชมป์ทั้งสองรอบด้วยการปราชัยให้แก่ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ และ เรอัลมาดริด ตามลำดับ.
หลังจากผ่านไปนาน ลิปปีก็ได้กลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี ค.ศ. 2001.แล้วได้ซื้อผู้เล่นใหม่มามากมายอาทิเช่น จันลุยจี บุฟฟอน, ดาวิด เทรเซกูเอต, ปาเวล เนดเวด และ ลีเลียน ทูร์ราม มาช่วยให้สโมสรสามารถคว้าแชมป์เซเรียอาได้ในฤดูกาล 2001-02และ2002-03ในปี ค.ศ. 2003 ยูเวนตุสในฐานะแชมลีกได้เข้าไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจนเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศโดยพบกับ เอซี มิลานสโมสรจากประเทศเดียวกันผลออกมาเสมอ 0-0 แต่ยูเวนตุสก็เป็นฝ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษ.จากการแข่งขันนี้ทำให้ลิปปีได้ลาออกจากผู้จัดการทีมแล้วไปคุม ฟุตบอลทีมชาติอิตาลีแล้วทำให้ต้องหยุดสถิติการนำยูเวนตุสคว้าแชมป์รายการทั้งหมดไว้แค่ 13 รายการ แต่เขาก็ยังเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จกับยูเวนตุสอยู่ในประวัติศาสตร์ของสโมสร.
เกียรติประวัติ กับเรื่องอื้อฉาว
สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส (ยูเวนตุสFootball Club) เป็นสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตูริน(โตริโน) ในฤดูกาล2006/2007 ถูกปรับตกชั้นให้ไปเล่นใน กัลโช่ เซเรีย บี(Serie B) หรือดิวิชั่น 2ของอิตาลีจากการถูกปรับตกชั้นในคดีติดสินบนผู้ตัดสิน (ร่วมกับมิลานฟิออเรนติน่า และลาซิโอ) เป็นสโมสรเก่าแก่สโมสรหนึ่งของประเทศอิตาลี โดยก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1897 (พ.ศ. 2440) และประสบความสำเร็จมากมาย อีกทั้งยังเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยุโรปทั้งสามรายการ คือ ยูโรเปียน คัพ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) คัพวินเนอร์สคัพ และยูฟ่า คัพ
ขณะเดียวกันยูเวนตุสยังมีชื่อเสียงในด้านลบเกี่ยวกับอิทธิพลมืดในวงการฟุตบอลอิตาเลี่ยน เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดคือ กัลโช่โปลี ซึ่งยูเวนตุสตกเป็นผู้ต้องหาในคดีจ้างวานผู้ตัดสิน ทำให้ตกชั้นลงไปในเซเรีย บี และถูกยึดแชมป์อย่างน่าอดสู หลายคนให้ข้อสังเกตว่ายูเวนตุสมักได้ประโยชน์ของการตัดสินของกรรมการ เช่น การทดเวลาที่นานกว่ากำหนด, การได้ลูกจุดโทษ, การถูกไล่ออกของฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ นับเป็นสโมสรที่มีคนชื่นชมและคนชิงชังใกล้เคียงกัน
สนามกีฬาของสโมสรยูเวนตุส
สนามกีฬายูเวนตุส ตั้งอยู่ในเมืองตูริน และเป็นสนามกีฬาเหย้าของสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส สร้างบนที่ตั้งเดิมของ เดลเลอัลปิ สนามฟุตบอลประจำเมืองตูริน มีความจุ 41,000 ที่นั่ง
- สโมสรยูเวนตุสนับตั้งแต่ก็ตั้งสโมสรขึ้นมาในปี ค.ศ. 1897 มาจนถึงปัจจุบันได้เปลี่ยนสนามเหย้ามาแล้ว 5 สนาม
- สนามเวโลโดรโมอัมเบรโต ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 1904 จนถึง ค.ศ. 1909
- สนามสตาดีโอดีคอร์ซีเซบาสโตโปลี ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 1909 จนถึง ค.ศ. 1922
- สนามสตาดีโอดีคอร์โซมาร์ซีเกลีย ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 1923 จนถึง ค.ศ. 1933
- สนามสตาดีโอโอลิมปิกโกดิโทริโน ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 1933 จนถึง ค.ศ. 1990 และ ค.ศ. 2006 จนถึง ค.ศ. 2011
- สนามสตาดีโอเดลเลอัลปี ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 1990 จนถึง ค.ศ. 2006
- สนามยูเวนตุสสเตเดียม ถูกใช้เป็นสนามเหย้าในปี ค.ศ. 2011 จนถึง ปัจจุบัน
รายชื่อผู้เล่น นักเตะ ชุดปัจจุบัน
| เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | ผู้เล่น |
| 1 | GK | โปแลนด์ | วอยแชค ชแชนสนือ |
| 2 | DF | อิตาลี | |
| 3 | DF | อิตาลี | จอร์โจ กีเอลลีนี (กัปตัน) |
| 4 | DF | เนเธอร์แลนด์ | มัตไตส์ เดอ ลิคต์ |
| 5 | MF | บราซิล | อาร์ตูร์ |
| 6 | MF | เยอรมนี | ซามี เคดีรา |
| 7 | FW | โปรตุเกส | คริสเตียโน โรนัลโด |
| 8 | MF | เวลส์ | แอรอน แรมซีย |
| 10 | FW | อาร์เจนตินา | เปาโล ดีบาลา |
| 11 | FW | บราซิล | โดกลัส กอสตา |
| 12 | DF | บราซิล | อาแลกส์ ซังดรู |
| 13 | DF | บราซิล | ดานีลู |
| 14 | MF | สหรัฐ | เวสตัน แม็กเคนนี (ยืมมาจากชัลเคอ 04) |
| เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | ผู้เล่น |
| 16 | MF | โคลอมเบีย | ฮวน กัวดราโด |
| 17 | DF | อิตาลี | ลูกา เปลเลกรีนี |
| 19 | DF | อิตาลี | เลโอนาร์โด โบนุชชี (รองกัปตัน) |
| 20 | FW | โครเอเชีย | มาร์คอ พิยัตซา |
| 24 | DF | อิตาลี | ดานีเอเล รูกานี |
| 25 | MF | ฝรั่งเศส | อาเดรียง ราบีโย |
| 28 | DF | ตุรกี | Merih Demiral |
| 30 | MF | อุรุกวัย | โรดริโก เบนตังกูร์ |
| 31 | GK | อิตาลี | คาร์โล ปินโซโญ |
| 33 | FW | อิตาลี | เฟเดรีโก แบร์นาร์เดสกี |
| 44 | MF | สวีเดน | Dejan Kulusevski |
| 77 | GK | อิตาลี | จันลุยจี บุฟฟอน |
สำหรับ โรนัลโด ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 117 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 และเวลานี้ยังคงมีสัญญาอยู่ในถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ถึงปี 2022 และมีโอกาสสูงที่ โรนัลโด้ จะจบเส้นทางการค้าแข้งกับทัพ “เบียงโคเนรี” สูงทีเดียว
ฤดูกาลนี้ โรนัลโด ทำไปแล้ว 28 ประตู จาก 28 เกมในเซเรีย อา และถือเป็นนักเตะ ยูเวนตุส คนแรกในรอบ 60 ปี ที่ทำประตูมากกว่า 25 ประตูใน 1 ฤดูกาล อีกทั้งยังตั้งเป้าที่จะทำประตูแซงหน้า ชิโร่ อิมโมบิเล่ ของ ลาซิโอ เข้าป้ายคว้ารางวัลดาวซัลโวเซเรีย อา ในฤดูกาลนี้ให้ได้ เวลานี้ โรนัลโด ตามหลังอยู่เพียงประตูเดียวเท่านั้น
สตาฟโค้ชของสโมสร
| ผู้จัดการทีม | เมารีซีโอ ซาร์รี |
| ผู้ช่วยผู้จัดการทีม | จิโอวานนี่ มาตูส์เชียลโล่ |
| ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู | คลาดิโอ ฟิลลิปปี |
| หัวหน้าผู้ฝึกสอน | มาร์โก้ เอียนนี่ |
| หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟิตเนส | เดเนียล ตอญาคซินี่ |
| ผู้ฝึกสอนฟิตเนส | อันเดรีย เปอตูซิโอ้ |
| ผู้ฝึกสอนฟิตเนส | ดาวิด โลซี่ |
| หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทรนนิงเชค | โรแบร์โต ซาสซี |
วันที่ 9 ส.ค. 63 “ม้าลาย” ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศแต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล ตำนานมิดฟิลด์จอมเตะลูกนิ่งของทีม เป็นกุนซือคนใหม่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ยูเวนตุส เพิ่งจัดการปลด เมาริซิโอ ซาร์รี ออกจากตำแหน่งกุนซือ หลังพาทีมตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ด้วยน้ำมือของ โอลิมปิก ลียง ซึ่งล่าสุด ยูเวนตุส ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาได้ทำการแต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล ที่เพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมยูเวนตุสชุดยู-23 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก้าวขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทนที่ ซาร์รี เรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาร่วมงานกัน 2 ปี
รายงานระบุว่า อันเดรีย อันเญลลี ประธานสโมสรยูเวนตุส ตัดสินใจเลือก ปิร์โล เพราะมองว่าจะสามารถเดินตามรอย ซีเนดีน ซีดาน ที่เคยเป็นนักเตะของเรอัล มาดริด และเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชก็สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ นอกจากนี้การที่เคยเล่นเป็นตำแหน่งกองกลางมาก่อนก็จะมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมในการมองเกมการแข่งขัน และเรื่องอายุที่ยังไม่เยอะจะทำให้สามารถสื่อสารกับนักเตะได้ง่าย และได้รับความเคารพจากความสำเร็จที่เคยผ่านมากับทีม
ผลงานของ สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส
ระดับประเทศ
เซเรียอา
- ชนะเลิศ (36): 1905, 1925–26, 1930–31, 1931–32, 1932–33, 1933–34, 1934–35, 1949–50, 1951–52, 1957–58, 1959–60, 1960–61, 1966–67, 1971–72, 1972–73, 1974–75, 1976–77, 1977–78, 1980–81, 1981–82, 1983–84, 1985–86, 1994–95, 1996–97, 1997–98, 2001–02, 2002–03, 2011–12, 2012–13, 2013–14, 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18, 2018–19, 2019–20
โกปปาอีตาเลีย
- ชนะเลิศ (13): 1937–38, 1941–42, 1958–59, 1959–60, 1964–65, 1978–79, 1982–83, 1989–90, 1994–95, 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18
ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา
- ชนะเลิศ (8): 1995, 1997, 2002, 2003, 2012, 2013, 2015, 2018
เซเรียบี
- ชนะเลิศ (1): 2006–07
ยุโรป ระดับทวีปยุโรป
ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ชนะเลิศ (2): 1984–85, 1995–96
ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ
- ชนะเลิศ (1): 1983–84
ยูฟ่าคัพ/ยูฟ่ายูโรปาลีก
- ชนะเลิศ (3): 1976–77, 1989–90, 1992–93
ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ
- ชนะเลิศ (1): 1999
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
- ชนะเลิศ (2): 1984, 1996
โลก ระดับโลก
อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ
- ชนะเลิศ (2): 1985, 1996
เรื่องราวที่น่าสนใจของทีมสโมสร ยูเวนตุส
- ยูเวนตุสเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงเป็นอย่างมาก คว้าแชมป์มากกว่า 40 รายการ ได้แก่ แชมป์ลีก ซีเรียอา 34 สมัย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 2 สมัย โคปาอิตาลี 13 สมัย อิตาเลียนซุปเปอร์คัฟ 7 สมัย ยูฟ่าคัฟ 3 สมัย
- ยูเวนตุสเป็นทีมแรก และ ทีมเดียวที่มีดาวสีทองอยู่บนอกเสื้อ 3 ดวง
- ยูเวนตุสยังเป็นสโมสรเดียวที่ได้แชมป์รายการระดับนานาชาติครบทุกรายการ
- ในศตวรรษที่ 20 ฟีฟ่าจัดอันดับให้ยูเวนตุสอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของวงการฟุตบอลอิตาลี และ อันดับที่ 7 ของสโมสรฟุตบอลโลก
- อิทธิพลมืดในวงการมาเฟียฟุตบอลอิตาเลียน จากหลักฐานซิมการ์ดบันทึกบทสนทนา ทำให้เพียงพอที่จะทำให้โทษทีมยูเวนตุส , เอซีมิลาน , ฟิออเรนติน่า และ ลาซิโอ ถึงภายหลังตรวจพบว่าอินเตอร์ม ลานก็อาจจะมีส่วนพัวพัน แต่ คดีก็หมดอายุความเสียแล้ว
- การสร้างประวัติศาสตร์การทวงคืนบัลลังก์แชมป์เปี้ยน ของ มหาอำนาจของวงการลูกหนัง ถูกส่งต่อด้วย นักเตะที่ยอมอยู่ช่วยทีม ไม่ทอดทิ้งไปในช่วงเวลาตกชั้น ทั้งๆที่มีการย้ายของดาวดังจำนวนไม่น้อยได้แก่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช , จิอันลูกา ซามบร็อตตา, ฟาบิโอ คันนาวาโร, ลิลิยง ตูราม และ ฯลฯ
- แต่สโมสรแห่งนี้ก็ยังมีความรักมากมายที่ฉุดดึงนักเตะไว้ ให้พาทีมก้าวข้ามผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน ได้แก่
- จอร์โจ คิเอลลลินี ผู้ที่เชื่อมั่นในประวัติศาสตร์ทีมอันยิ่งใหญ่อยู่ร่วมหัวจมท้ายพาทีมกลับขึ้นสู่ซีเรียอา
- พาเวล เนดเวด ผู้ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานม้าลาย ถึงแม้ว่าดาวดังจะสามารถเลือกทีมได้มากมายในช่วงที่สโมสรตกชั้น แต่ เนดเวดเลือกที่จะอยู่กับทีมยูเว่ และ แขวนสตั๊ดไปพร้อมกับคำว่า ตำนานม้าลาย
- สโมสรยูเวนตุสมียามากกว่า 281 ชนิดอยู่ภายในคลินิกของสโมสร เทียบเท่ากับโรงพยาบาลขนาดเล็กของเมืองตูริน
- เมาโร คาโมราเนซี ตำนานผู้จงรักภักดี และ อยู่ในใจแฟนบอลยูเว่เสมอมา ถึงแม้ว่าจะไม่เก่งแบบโดดเด่นแต่ก็เป็นปีกที่มีความสามารถ
- จิอันลุยจิ บุฟฟอน ผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวมหาศาลก่อนย้ายมาอยู่ เบียงโครี(ผู้รักษาประตูที่ลงเล่นในซีเรียอามากที่สุด 639 นัด คลีนชีต 300 นัด) ไม่เสียประตูนานที่สุดในเซเรีย อา 974 นาที คว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปี ของ เซเรีย อา 12 สมัย เป็น 1 ใน 6 ของนักเตะที่ลงให้กับสโมสรมากที่สุด ได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมระดับโลกมากถึง 4 ครั้ง
- ดาวิด เทรเซเกต์ กองหน้าระดับโลก ที่ไม่ค่อยความผูกผันกับสโมสรเท่าไรนัก แต่ก็ยืนยันจะร่วมหัวจมท้ายไปกับสโมสร
- อเลสซานโดร เดล ปิเอโร อยู่กับทีมยูเวนตุสมายาวนานกว่าใครๆในทีม และ เป็นนักเตะคนแรกที่กล่าวออกมาอย่างชัดเจนว่าจะอยู่กับทีมไม่ว่าจะอยู่ในลีกใด เรียกได้ว่ากัปตันทีมตัวจริง
- ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ (ผู้จัดการทีม) เคยเป็นนักเตะในนามสโมสรยูเวนตุส พอรู้ว่าทีมรักของตัวเองตกชั้น และปลดผู้จัดการทีมออก เดส์ชองส์ อาสามาคุมทีมโดยไม่เรียกร้องอะไร มาด้วยใจล้วนๆ
สถิติที่น่าสนใจหลังยูเวนตุสคว้าแชมป์
- การคว้าแชมป์สมัยที่ 34 เป็นการคว้าแชมป์ 7 สมัยติดต่อกันของยูเว่บนซีเรียอา ไม่เคยมีสโมสรใดทำได้มาก่อน
- ยูเวนตุสเป็นสโมสรเดียวในกัลโช ซีเรียอา ที่มีนักเตะมากกว่า 1 คนยิงประตูได้มากกว่า 15 ประตู
- เมื่อตำนานจักรพรรดิของอิตาลี คือ เบอร์ 10 ได้แก่ ซีเนอดีน ซีดาน และ อันเดรีย ปิร์โล จากนั้นล่าสุดเป็น พอล ป็อกบา
- เบอร์ 10 ของ ยูเวนตุส คือ ดิบาล่า หลังจากการย้ายไปของ พอล ป็อกบา เบอร์ 10 ของเบียงโครีนั้นถูกปล่อยว่างและก็ไม่มีใครได้ใส่อีกจนถึงยุคของดิบาล่า
นักเตะที่มีชื่อเสียงของยูเวนตุส
กริชตียานู รูนัลดู ดุช ซังตุช อาไวรู (โปรตุเกส: Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro; เกิด 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985) หรือที่รู้จักกันในชื่อ คริสเตียโน โรนัลโด เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับยูเวนตุสในเซเรียอา และเป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกสคนปัจจุบัน โรนัลโดเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับหกในประวัติศาสตร์ฟุตบอล หลังย้ายจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาอยู่กับเรอัลมาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ โรนัลโดได้รับค่าจ้างในการลงเล่นให้กับเรอัลมาดริดจำนวน 12 ล้านปอนด์ต่อปี ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก โรนัลโดเป็นนักกีฬาที่สามารถทำการตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม ยูเวนตุสจึงได้ยอมเสี่ยงลงทุนซื้อมาด้วยค่าตัว 112 ล้านยูโร(หลังจากวันที่ย้ายมาทำทำรายได้จากการจำหน่ายเสื้อถึง 52 ล้านยูโร) โรนัลโดเป็นนักกีฬาที่มีฐานแฟนบอลมากกว่า 300 ล้านคน การย้ายของโรนัลโดมาที่ทีมม้าลาย ทำให้ผู้คนพูดถึงอิตาลีมากยิ่งขึ้น หุ้นของสโมสรสูงขึ้นถึง 40% การย้ายของโรนัลโด เป็นการบ่งบอกถึงแรงกระตุ้นว่าทีมม้าลาย กระหายในชัยชนะมากขนาดไหน เพราะโรนัลโดจะทำให้ ยูเวนตุส และ เซเรียอา ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ถือเป็นการปลุกชีพลีกกัลโช่ ให้ลุกเป็นไฟอีกครั้ง ดินแดนแห่งเทพเจ้าของวงการฟุตบอลในช่วงยุคสมัยหนึ่ง
