สโมสรฟุตบอลฟีออเรนติน่า ทีมฟุตบอลชั้นนำของประเทศอิตาลี ซึ่งได้รับฉายาว่า “Viola (สีม่วง) Gigliati (ดอกลิลลี่) ซึ่งได้รับฉายาจากไทยว่า “ม่วงมหากาฬ” ปัจจุบันเล่นอยู่ในเซเรียอา ตั้งอยู่ ณ เมืองฟลอเรนซ์ เป็นคู่อริ กับต่างเมืองตูริน อย่างทีมยูเวนตุส หลังเกิดเหตุการณ์ข้อกังขาในนัดสุดท้ายลุ้นแชมป์เซเรียอา ในปี ค.ศ. 1981–82 จึงเป็นคู่ดาร์บีแมตช์ ตั้งแต่ ณ เวลานั้นเป็นต้นมา
ประวัติความเป็นมา
สโมสรฟุตบอลฟิออเรนติน่าได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1926 โดยมีเจ้าของสโมสรที่ชื่อ ร็อคโค บี.คอมมิสโซ (98%) และ ฟิเรนเซ วิออล่า (2%) มีประธานสโมสรชื่อ มาริโอ คอนยินี่ และมีผู้จัดการทีมชื่อ วินเชนโซ มอนเตลลา ที่เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติของอิตาลี
โดยเล่นตำแหน่งกองหน้า ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสโมสรโรม่า, คาตาเนีย, ฟิออเรนตินา,ซัมป์โดเรีย และ เอซี มิลาน ทีมฟิออเรนติน่าได้เคยตกชั้นไปหลายครั้งและเคยตกชั้นไปหลายครั้งและยังเคยประสบวิกฤตจนถึงขั้นเกือบจะยุบสโมสร แต่ก็สามารถกลับคืนสู่ลีกสูงสุดจนถึงปัจจุบันในปี ค.ศ.2002
ทีมฟิออเรติน่า สามารถคว้าแชมป์ 2 รายการในอิตาลีในปี 1955-1956 และอีกครั้งในปี 1968-1969 และอีก 6 ถ้วยในโคปาอิตาเลีย และคว้าซูเปอร์โคปา อิตาเลีย บนเวทียุโรป Fiorentina คว้าแชมป์ยูฟ่า ฟิออเรน ติน่า นาโปลี วินเนอส์คัพได้ในปี 1960 และในปี 1956 พวกเขากลับมาเล่นในยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีกอีกครั้ง
โดยทีมฟุตบอลฟิออเรติน่าได้เล่นในลีกเซเรียอา
สนามเหย้าของสโมสรฟิออเรติน่า
สนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลฟิออเรติน่า เป็นสนามในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งมีชื่อว่า โคมูนาเล อาร์เตมีโอ ฟรังกี ซึ่งเคยใช้จัดการแข่งขันชั่วคราวของซิกส์เนชันส์แชมเปียนชิป 2012 โดยมีชื่อเดิมของสนามแห่งนี้คือ “โคมูนาเล” และชื่อสนามในตอนก่อสร้างคือ สนามกีฬาจีโอวานนี เบอร์ตา ตั้งชื่อตามผู้นับถือลัทธิฟีออเรนติน
สนามนี้ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ.1931 ซึ่งเป็นนัดที่ฟิออเรติน่าได้เปิดบ้านชนะแอดมิราเวียนไป 1-0 และได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1932 ซึ่งสนามมีความจุถึง 47,282 ที่นั่ง โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบสนามกีฬาชื่อว่า Pier Luigi Nervi สนามกีฬามีสถาปัตยกรรมแบบคริสตศตวรรษที่ 20
เป็นสนามที่เคยใช้ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1934 และรอบคัดเลือกฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อน 1960 ซึ่งรอบสุดท้ายจัดขึ้นที่โรม ในปี ค.ศ. 1945 ใช้จัดแข่งขันอเมริกันฟุตบอล สปาเกตตีโบว์
สนามแห่งนี้มีชื่อเดิมว่า “โคมูนาเล” และได้เปลี่ยนชื่อในปี ค.ศ.1991 โดยใช้ชื่อใหม่ว่า “อาร์เตมีโอ ฟรังกี” ซึ่งตั้งชื่อตามอดีตประธานสมาพันธ์ฟุตบอล
และในปี ค.ศ.1990 ทางสนามได้รับการปรับปรุงเพื่อใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยได้ขยายความจุ และรื้อลู่วิ่งออก สนามใช้จัดแข่งขัน 3 นัดในกลุ่ม A และรอบก่อนรองชนะเลิศที่อาร์เจนตินาเอาชนะยูโกสลาเวียด้วยการยิงลูกโทษ โดยมีสถิติยอดผู้เข้าชมสูงสุดที่สุดคือ 58,271 คน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1984 โดยเป็นการแข่งขันระหว่างฟีออเรนตีนาและอินเตอร์ มิลาน ในเซเรียอา
ตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟิออเรติน่า
เครื่องแต่งกายประจำทีมฟิออเรติน่า
ผลงานแชมป์และถ้วยรางวัล
ถึงแม้ว่าทีมฟุตบอลฟิออเรติน่าจะเป็นทีมใหญ่ แต่การคว้าตำแหน่งแชมป์ไปครองนั้นน้อยมาก นั่นอาจเป็นเพราะว่าแต่ละทีมในลีกนั้นมีความแข็งแกร่ง และทุกครั้งที่มีการแข่งขันจะต้องพบกับยักษ์ใหญ่ในลีกที่รวมไปด้วยนักเตะดัง ๆ ในทีมทั้งนั้นจนทำให้โอกาสที่จะเป็นแชมป์น้อยมาก
- Serie A : 1955–56; 1968–69
- Serie B : 1930–31; 1938–39; 1993–94
- Serie C2 : 2002–03
- Coppa Italia : 1939–40; 1960–61; 1965–66; 1974–75; 1995–96; 2000–01
- Supercoppa Italiana : 1996
- European Cup : 1956–57
- UEFA Cup Runners-up : 1989–90
- UEFA Cup Winners’ Cup : 1960–61
- Coppa Grasshoppers : 1957
- Mitropa Cup : 1966
นักเตะในทีม
เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | ผู้เล่น |
1 | GK | เนตู | |
2 | DF | กอนซาโล โรดรีเกซ | |
5 | MF | จาโคโม โบนาเวนตูรา | |
6 | MF | ควน มานวยล์ บาร์กัส | |
7 | MF | ดาบิด ปีซาร์โร | |
8 | MF | มาร์โก มาริน (ยืมตัวมาจาก เชลซี) | |
10 | MF | อัลแบร์โต อากวีลานี | |
12 | GK | ชีเปรียน ตาตารูชานู | |
13 | MF | โอเลคซันดร์ ปัฟโลวิช ยาโคเวนโค | |
14 | MF | มาตีอัส เฟร์นันเดซ | |
15 | DF | สเตฟาน ซาวิช | |
16 | MF | ยัสมิน คูร์ทิช (ยืมตัวมาจาก ซัสซูโอโล) | |
17 | MF | โคอากิน ซานเชซ | |
19 | DF | โคเซ มารีอา บาซันตา | |
20 | MF | บอร์คา บาเลโร | |
22 | FW | จูเซปเป รอสซี | |
23 | DF | มานูเอล ปัสกวัล (กัปตันทีม) | |
25 | MF | โจชัว บริลลันเต | |
28 | DF | มาร์โกส อาลอนโซ เมนโดซา | |
29 | FW | เฟเดรีโก แบร์นาร์เดสกี | |
30 | FW | คูมา บาบาการ์ | |
32 | MF | อันเดรอา ลัซซารี | |
33 | FW | มารีโอ โกเมซ | |
40 | DF | เนนัด ทอมอวิช | |
55 | DF | อะห์มัด ฮะกาซี | |
72 | MF | ยอซิป อีลีชิช | |
77 | FW | มูนีร์ เอล ฮัมดาวี | |
93 | MF | โอกตาวีอู (ยืมตัวมาจาก โบตาโฟโก) |
หัวใจของทีมฟิออเรติน่า กาเบรียล บาติสตูต้า มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นศูนย์หน้าที่ยิงบอลได้อย่างหนักหน่วงทั้งสองเท้า และยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ในฐานะกองหน้าไม่ว่าจะเป็นการยิงด้วยเทคนิคการหาพื้นที่ การโหม่งการทำประตูและการพักบอล ซึ่งจัดได้ว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของยุค 90s เลยก็ว่าได้
บาติโกลเป็นกองหน้าที่สามารถทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ โดยยิงได้ไม่ต่ำกว่า 13 ประตูในลีกทุกฤดูกาลที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรแห่งนี้ แม้กระทั่งในฤดูกาล 1992-93 ที่ฟิออเรนตินาตกชั้นไปอยู่เซเรีย บี ศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์ก็ยังกดบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ถึง 16 ลูกด้วยกัน
จอมทัพของทีมฟิออเรติน่า รุย คอสต้า ในการเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวเตะรายนี้มาจับคู่กับบาติโกลในเกมรุกนั้นถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมของทีมงานฟิออเรติน่า โดยที่ลูกจ่ายของรุยคอสต้าผนวกกับการทำประตูของบาติสตูต้าทำให้ทีมกลายเป็นทีมที่มีเกมรุกอันตรายที่สุดทีมหนึ่งของอิตาลีในยุค 90s เลยทีเดียว
ตัวทีเด็ด เอ็ดมุนโด้ เขาได้ย้ายมาเล่นกับทีมฟิออเรติน่าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในระหว่างปี 1997-1999 ซึ่งลงเล่นไปทั้งหมด 37 นัดและสามารถทำประตูได้ 12 ประตู เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มาก ๆ แต่ตัวเขามักจะมีปัญหาในด้านอารมณ์และพฤติกรรมนอกสนาม
ซึ่งตัวเอ็ดมุนโด้มีเทคนิคการเลี้ยงบอลที่แพรวพราวและยังยิงได้อย่างหนักหน่วงจากทั้งสองเท้า เรียกได้ว่าเป็นคนเข้ามาเติมเต็มฟุตบอลของฟิออเรนตินาให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นมาได้มากทีเดียว