ประวัติทีมบาเยิร์น มิวนิค
สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก หรือ เอฟเซไบเยิร์นมึนเชิน (เยอรมัน: FC Bayern München; อังกฤษ: FC Bayern Munich)ฉายา : Der FCB (The FCB) Die Bayern (The Bavarians) เสือใต้ ก่อตั้ง : 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1900 (122 ปี) ประธาน : แฮร์แบร์ท ไฮเนอร์ประธานสโมสร : คาร์ล-ไฮนทซ์ รุมเมอนิกเกอ ผู้จัดการทีม : ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิคส์ ได้แชมป์ลีก : บุนเดิสลีกา2019–20 อันดับที่ 1
เป็นสโมสรในประเทศเยอรมนี อยู่ที่เมืองมิวนิก อีกชื่อหนึ่งอาจเรียกว่า บาวาเรียมิวนิก หรือ บาวาเรียมึนเชิน เป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศเยอรมัน โดยสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุด (บุนเดสลีกา) มาครองได้มากถึง 24 ครั้ง แชมป์สโมสรโลก 2 ครั้ง ยูโรเปี้ยนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 ครั้ง ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 ครั้ง และยูฟ่าคัพ 1 ครั้ง
สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1900 นำโดย 11 ผู้เล่นฟุตบอลท ฟรันซ์ จอร์น แม้ว่าบาเยิร์นจะชนะในการชิงแชมป์แห่งชาติในปี ค.ศ. 1932 สโมสรก็ไม่ได้เลือกเล่นในบุนเดสลีกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1963 สโมสรมีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อกลางยุค 70 ภายใต้การนำของฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ โดยได้แชมป์สโมสรยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน (ค.ศ. 1974-76) ในปีที่บาเยิร์นได้รับตำแหน่งสโมสรที่ประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลเยอรมัน ชนะถึงห้าในสิบครั้งของบุนเดสลีกาล่าสุด รางวัลระดับนานาชาติล่าสุดของสโมสรคืออินเตอร์คอนติเนนตัลคัพในปี ค.ศ. 2001 หลังจากที่พวกเขาได้แชมป์สโมสรยุโรปสมัยที่ 4 ในปีเดียวกัน
ตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2005-06 บาเยิร์นใช้สนามอัลลิอันซ์อารีนาเป็นสนามเหย้าของตัวเอง ก่อนหน้านี้สโมสรได้เล่นในสนามโอลิมปิค สเตเดียม มิวนิกมาเป็นเวลา 33 ปี
ในฤดูกาล 2013-14 บาเยิร์นมิวนิคสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 24 โดยที่ลงแข่งไปเพียง 27 นัดเท่านั้น ด้วยการเอาชนะแฮร์ธาเบอร์ลิน ไป 1-3 ที่สนามโอลิมเปียชตาดิออนเบอร์ลิน ของแฮร์ธา ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2014 ด้วยเหตุที่ทีมที่มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ในตาราง คือ โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ไม่สามารถตามทันแล้ว นับเป็นการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
สถิติการลงเล่นของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค
ลงเล่นมากที่สุด : เซปป์ ไมเออร์ (536 นัด)
ทำประตูสูงสุด : แกร์ด มึลเลอร์ (398 ประตู)
ชนะสูงสุด : บาเยิร์นมิวนิก 11-1 โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ (บุนเดสลีกา, 27 พฤศจิกายน 1971)
แพ้สูงสุด : บาเยิร์นมิวนิก 0-7 ชัลเคอ 04 (บุนเดสลีกา, 9 ตุลาคม 1976)
ผลงานของทีมบาเยิร์น มิวนิค
ระดับประเทศ
บุนเดสลีกา (24) : 1931–32, 1968–69, 1971–72, 1972–73, 1973–74, 1979–80, 1980–81, 1984–85, 1985–86, 1986–87, 1988–89, 1989–90, 1993–94, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01, 2002–03, 2004–05, 2005–06, 2007–08, 2009–10, 2012-13, 2013-14
เดเอฟเบโพคาล (13) : 1957, 1966, 1967, 1969, 1971, 1982, 1984, 1986, 1998, 2000, 2003, 2005, 2006, 2008, 2010, 2012
เดเอฟเบ-ลีกาโพคาล (6) : 1997, 1998, 1999, 2000, 2004, 2007
เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ (5) : 1982, 1987, 1990, 2010, 2012
ระดับยุโรป
ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (5) : 1974, 1975, 1976, 2001, 2013
ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ (1) : 1967
ยูฟ่าคัพ/ยูฟ่ายูโรปาลีก (1) : 1996
ระดับโลก
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (3) : 1976, 2001,2013
สีประจำสโมสรคือสีแดงและสีขาว
สีประจำสโมสรคือสีแดงและสีขาว และทีมได้แสดงให้เห็นถึงสีประจำรัฐบาวาเรีย บาเยิร์นเป็นสโมสรที่ใช้ระบบสมาชิกกว่า 162,187 คน นอกจากนี้ยังมี 2,764 ที่ลงทะเบียนแฟนคลับอย่างเป็นทางการร่วมกับ 192,162 คน สโมสรยังมีหน่วยงานด้านกีฬาอื่น ๆ อีก คือ หมากรุก, แฮนด์บอล, ยิมนาสติก, โบว์ลิ่ง, ปิงปอง, ผู้ตัดสินและทีมฟุตบอลอาวุโส รวมกันมีสมาชิกใช้งานมากกว่า 1,100 คน
สนามที่ใช้
อัลลีอันทซ์อาเรนา (เยอรมัน: Allianz Arena) มีชื่อเล่นว่า “เรือยาง” (Schlauchboot) เป็นสนามฟุตบอลในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองมิวนิก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2545 และเสร็จสมบูรณ์เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด 340 ล้านยูโร ปัจจุบันทีมที่ใช้สนามคือสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก สามารถจุคนได้ถึง 75,000 คน
ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน
ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค (เยอรมัน: Hans-Dieter Flick; เกิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมัน ปัจจุบันเป็นผู้จัดการของไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกา เขาเคยเป็นผู้ช่วยของโยอาคิม เลิฟ ในทีมชาติเยอรมนีระหว่างเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2006 ถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2014
สมัยที่เป็นผู้เล่น ฟลิคเป็นกองกลางได้ลงเล่นให้กับไบเอิร์นมิวนิกทั้งหมด 104 นัด และทำได้ 5 ประตูในช่วง ค.ศ. 1985–1990 ต่อมาเขาได้ลงเล่นให้กับเคิลน์ทั้งหมด 44 นัด และสโมสรสุดท้ายที่เขาได้ลงเล่นคือ วิคโทรีอาบัมเมินทาล ในช่วง ค.ศ. 1994–2000
ฟลิคเคยลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนีรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ทั้งหมด 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1983 เมื่อวันที่ 15 และ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1983 ได้แก่ นัดที่เอาชนะสวีเดน 1-0 และชนะบัลแกเรีย 3-1 ตามลำดับ
กรกฏาคม ปี 2019 บาเยิร์น มิวนิค ประกาศแต่งตั้งให้ ฮานซี่ ฟลิค เข้ามารับตำแหน่งมือขวาให้กับ นิโก้ โควัช แต่เนื่องด้วยทรงบอลและผลงานที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของ ‘เสือใต้’ ทำให้ โควัช ต้องตกงานไปในท้ายที่สุดโดยฟางเส้นสุดท้ายคือการพาทีมบุกไปโดน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ถล่มยับเยิน 5-1 และนั่นก็ทำให้ ฟลิค ได้ก้าวขึ้นมาเป็นรักษาการคุมทีมนับจากนั้น
ส่วนผลงานในยุคของ ฮานซี่ ฟลิค เขาคุมทีม 21 นัด ชนะ 18 เสมอ 1 แพ้ 2 นัด ยิงได้ 67 ประตู เสีย 14 ประตู มีเปอร์เซนต์ Win Rate อยู่ที่ 85.71 % และที่สำคัญคือแกสามารถพา บาเยิร์น มิวนิค ทะยานกลับมาครองจ่าฝูง บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้อีกครั้ง ส่วนในรายการใหญ่ๆ อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องด้วย และนั่นก็นำมาซึ่งสัญญาถาวรในท้ายที่สุด
เหตุผลที่ ฮานซี่ ฟลิค ได้สัญญาใหม่
อันนี้อ้างอิงมาจากสื่อต่างประเทศเขาว่ากันว่าเหตุผลข้อแรกเลยก็คือการทำทีมได้อยู่ในระดับเดียวกันกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะหลังจากแพ้ให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค บาเยิร์น ไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกัน 11 นัด และเก็บได้ 40 คะแนนจาก 48 คะแนนซึ่งต่างจากตอน เป๊ป คุม เมื่อซีซั่น 2013-14 ที่ทำได้ 46 จาก 48 คะแนนแค่นิดเดียวเท่านั้น
ข้อต่อมาก็คือศักยภาพเกมรุก เพราะตั้งแต่ ฮานซี่ ฟลิค เข้ามากุมบังเหียน บาเยิร์น ก็กลับมามีเกมรุกที่จัดจ้านและอันตรายสุด ๆ อีกครั้ง โดย 73 ประตูที่เกิดขึ้นใน บุนเดสลีกา ซีซั่นนี้ 48 ประตูมาเกิดจากช่วงเวลาของ ฮานซี่ ฟลิค แถมยังเก็บได้ถึง 12 คลีนชีท และเสียแค่ 14 ประตูเท่านั้นรวมทุกรายการ เรียกได้ว่าตอนนี้ ‘พี่เสือ’ กำลังแกร่งสุด ๆ ทั้งเกมรุกและเกมรับ และพร้อมรบกับทุกทีม
ผู้เล่น ชุดล่าสุดของทีมบาเยิร์น
เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | รายชื่อ |
1 | GK | เยอรมนี | มานูเอ็ล น็อยเออร์ (กัปตัน) |
4 | DF | เยอรมนี | นิคคลัส ซือเลอ |
5 | DF | ฝรั่งเศส | แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ |
6 | DF | เยอรมนี | โยซูอา คิมมิช |
7 | MF | เยอรมนี | แซร์ช กนาบรี |
8 | DF | สเปน | ฆาบิ มาร์ติเนซ |
9 | FW | โปแลนด์ | รอแบร์ต แลวันดอฟสกี |
10 | MF | เยอรมนี | ลีร็อย ซาเน |
11 | FW | บราซิล | โดกลัส กอสตา (ยืมจากยูเวนตุส) |
13 | FW | แคเมอรูน | เอริก มักซิม ชูโป-โมติง |
14 | FW | เนเธอร์แลนด์ | Joshua Zirkzee |
17 | DF | เยอรมนี | เฌโรม โบอาเท็ง |
18 | MF | เยอรมนี | เลอ็อน โกเร็ทซ์คา |
เลข | ตำแหน่ง | สัญชาติ | ผู้เล่น |
19 | MF | แคนาดา | อัลฟอนโซ เดวีส์ |
20 | DF | ฝรั่งเศส | บูนา ซาร์ |
21 | DF | ฝรั่งเศส | ลูกัส แอร์น็องแดซ |
22 | MF | สเปน | มาร์ก โรกา |
23 | DF | ฝรั่งเศส | ต็องกี นีย็องซู |
24 | MF | ฝรั่งเศส | กอร็องแต็ง ตอลีโซ |
25 | FW | เยอรมนี | กอร็องแต็ง ตอลีโซ |
27 | DF | ออสเตรีย | ดาวิด อาลาบา |
29 | MF | ฝรั่งเศส | กีงส์แล กอมาน |
30 | MF | เยอรมนี | อาดรีอัน ไฟน์ |
35 | GK | เยอรมนี | อเล็คซันเดอร์ นือเบิล |
39 | GK | เยอรมนี | ร็อน-ทอร์เบิน ฮ็อฟมัน |
ผลงานด้านเด่นของนักเตะ บาเยิร์น
มานูเอล นอยเออร์ คว้ารางวัลผู้รักษาประตูชายยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ (The World’s Best Man Goalkeeper of the Decade 2011-2020) จัดโดยสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFFHS)
การได้เข้าร่วมทีม บาเยิร์น ถือเป็นฝันของนักเตะเยอรมันแทบทุกคน เพราะการได้เล่นให้กับ บาเยิร์น ก็เหมือนการเปิดประตูสู่ทีมชาติเยอรมัน ทุกเหตุผลที่กล่าวทำให้ทุกสโมสรในบุนเดสลีกายอมรับแต่โดยดีว่า หาก บาเยิร์น ต้องการนักเตะของพวกเขาขึ้นมาเมื่อไหร่ก็แทบจะหมดโอกาสต่อต้านเมื่อนั้น แม้จะเกลียดราชาแห่งลีกเยอรมันเท่าไร แต่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค ได้เลย