เกมติดตาม รายงานผลฟุตบอล แบบเรียลไทม์

แทงบอลออนไลน์

แทงบอลออนไลน์


0 Shared

0 Pined

0 Shared

0 Shared

ประวัติ บรูโน่ แฟร์นานเดส ผลงานด้านฟุตบอล และเส้นทางสู่นักเตะอาชีพ

บรูโน่ แฟร์นานเดส

บรูโน่ แฟร์นานเดส เกิดวันที่ 8 เดือนกันยายน คริสต์ศักราช 1994 นักฟุตบอลสัญชาติ โปรตุเกส ความสูง 1.79 เมตร หรือ 5 ฟุต 10 นิ้ว ตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบันนี้เล่นให้กับทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สวมเสื้อเบอร์ 18

ประวัติของบรูโน่ แฟร์นานเดส

บรูโน่ เฟอร์นานเดส เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกในระดับเยาวชนอาชีพในปี 2002-2004 Infesta ต่อมา เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเบาวิสต้า เป็นทีมชื่อดังในประเทศโปรตุเกสในปี 2004-2012 กว่า 8 ปี ก่อนจะถูกยืมตัวเล่นให้กับสโมสรเยาวชน Pasteleira ในปี 2005-2010 และได้ย้ายเข้าร่วมเล่นกับสโมสร โนวารา ในปี 2012-2013 ต่อมาได้เลื่อนขึ้นมาร่วมค้าแข้งกับ โนวารา ในสโมสรอาชีพชุดใหญ่ในปี 2012-2013 ต่อมาในปั 2013-2016 ได้ย้ายมาร่วมค้าแข้งกับ อูดิเนเซ่ เป็นสโมสรมีชื่อในอิตาลี่ โดยอยู่ร่วมเล่นให้กับทีมกว่า 3 ปี ก่อนจะย้ายมาร่วมค้าแข้งกับ ซามพ์โดเรีย สโมสรในลีกอิตาลี่ในปี 2016-2017 ต่อมาปี 2017 ได้ย้ายกลับมาค้าแข้งใน สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรชื่อดังในประเทศโปรตุเกส สไตล์การเล่นเป็นนักฟุตบอลที่มีความแกร่งและก็มีทักษะการครองบอลได้เยี่ยม เปิดบอลแม่น พร้อมสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในต้นปี 2020 ได้ย้ายมาเล่นในอังกฤษ กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ

เส้นทางสู่ลูกหนังของบรูโน่ แฟร์นานเดส

บรูโน่ เฟอร์นันเดส เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอล กับ สโมสร อินเฟสต้า โดยเจ้าตัวได้เข้ามาสู่ทีมเยาวชนในปี 2002-2004 หลังจากนั้นทางลูกหนังของเจ้าตัวก็เริ่มไต่ระดับสูงขึ้น ในปี 2004 เมื่อได้ย้ายมาร่วมทีม เบาวิสต้า ซึ่งนับว่าเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงของลีกโปรตุเกส

ทว่าการเล่นอยู่ที่นี่ บรูโน่ ก็ยังเป็นเพียงแค่นักฟุตบอลเยาวชนของทีมเท่านั้น ยังไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้ จนกระทั่ง ปี 2005 เขาได้ถูกปล่อยยืมไปให้กับ ปาสตีไรล่า ในปี 2005 และก็อยู่ที่นั่นนานถึง 5 ปี เลยทีเดียว ก่อนที่จะย้ายกลับมายัง เบาวิสต้า อีกครั้งในปี 2010 แล้วก็อยู่ที่นี่ต่ออีก 2 ปี จนกระทั่งปี 2012 เส้นทางลูกหนังที่แท้จริง บททดสอบของจริงในอาชีพนักฟุตบอลของ บรูโน่ ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อ โนวาร่า ทีมลูกหนังในประเทศอิตาลี ได้เห็นแววบางอย่างในตัวเขา เลยตัดสินใจซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม จากนั้นเจ้าตัวก็ค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าจนขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของ โนวาร่า ได้ และในช่วงฤดูกาล 2012/2013 บรูโน่ ก็ได้ลงสู่สนามเล่นให้กับทีมไปถึง 23 นัด แถมยังยิงได้อีก 4 ประตู อีกด้วย ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมากกับการย้ายมาเล่นในลีกต่างแดนด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น และความมุ่งมั่นในการเล่น ทำให้ฟอร์มของเขาไปเข้าตาของแมวมอง อูดิเนเซ่ สโมสรชื่่อดัง ศึกกัลโช่ เซเรีย อา และเขาก็ได้ย้ายมาร่วมทีมในปี 2013 และกลายเป็นกำลังหลักของทีม และค้าแข้งอยู่นานถึง 3 ปี ลงเล่นไปถึง 86 นัด และก็ยิงได้ 10 ประตู

ปี 2016 ชีพจรลงเท้า บรูโน่ อีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ ซามพ์โดเรีย สโมสรชื่อดังของลีกอิตาลี โดยในช่วงฤดูกาล 2016/2017 เขาลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่ไปถึง 33 นัด และยิงได้ 5 ประตู พาทีมจบอันดับ 10 ของตาราง แต่เจ้าตัวก็อยู่ค้าแข้งให้กับที่นี่ได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น เมื่อจบฤดูกาลนั้นแล้ว เขาก็ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิด ไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกโปรตุเกส ซึ่งที่นี่เองที่สร้างให้เขากลายเป็นสุดยอดนักฟุตบอลของลีกยุโรป

บรูโน่ ย้ายมาค้าแข้งให้กับ สปอร์ติ้ง ในช่วงฤดูกาล 2017/2018 และเพียงฤดูกาลแรกเขาก็แจ้งเกิดแบบเต็มตัว เมื่อระเบิดตาข่ายคู่แข่งไปถึง 16 ประตู กับทำอีก 14 แอสซิสต์ จาการลงสนามทุกรายการ 56 นัด ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เท่านั้นยังไม่พอ ในช่วงฤดูกาลต่อมา เจ้าตัวยังระเบิดฟอร์มการเล่นได้ดีมากว่าเดิมอีก เมื่อยิงได้แบบระเบิดเถิดเทิงถึง 31 ประตู กับทำอีก 15 แอสซิสต์ จากการลงในสนามทั้งหมด 55 นัด และอย่าลืมว่าเขาเล่นในตำแหน่งกองกลาง ไม่ใช่กองหน้าของทีม

หลังจบ ฤดูกาล 2018/2019 มีข่าวออกมาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก สนใจที่จะดึงตัว บรูโน่ ไปร่วมทีม และว่ากันว่าเจ้าตัวเกือบจะได้ย้ายอยู่แล้ว แต่ตกลงเรื่องค่าตัวไม่ได้ทำให้ดีลนี้ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้ดาวเตะโปรตุเกส ต้องค้าแข้งกับต้นสังกัดเดิมต่อไป แต่เจ้าตัวก็ยังทำผลงานยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ โดยเพียงแค่ครึ่งฤดูกาลแรก เขาซัดไป 15 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ จาการลงสู่สนาม 27 นัดให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเมื่อถึงเดือนมกราคม ปี 2020 ฝันของสาวก “ปีศาจแดง” ก็เป็นจริง เมื่อ แมนยู ตัดสินใจทุ่มเงินคว้าตัว บรูโน่ มาร่วมทัพ ได้สำเร็จ และเพียงแค่การเข้ามาของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็ช่วยทำให้ยอดทีมแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลายเป็นคนละทีมกับเมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลแรก เขาเข้ามาช่วยยกระดับการเล่นของทีม ช่วยปลุกจิตวิญญาณนักสู้ และก้าวเข้ามาเป็นผู้นำของทีม จนเมื่อจบฤดูกาล ทีมก็สามารถจบอันดับที่ 3 คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมกับที่เจ้าตัวก็ได้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร อีกด้วย ทั้ง ๆ ที่พึ่งจะย้ายเข้ามาเล่นเพียงแค่ครึ่งฤดูกาลเท่านั้น

บทความแนะนำ  ประวัติและข้อมูลของ โค้ชโต่ย ผลงานที่น่าสนใจที่มีต่อ ฟุตบอลทีมชาติไทย
บรูโน่ เฟอร์นันเดส

ผลงานทีมชาติโปรตุเกส

บรูโน่ เฟอร์นันเดส ได้เริ่มต้นการเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ครั้งแรก ในระดับเยาวชน เมื่อปี 2012 ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จากนั้นก็ขยับขึ้นไปเล่น ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี รวมทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อีกด้วย

จนกระทั่งปี 2017 ที่เจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็ได้รับโอกาสสำคัญ เมื่อเขาถูกดันขึ้นไปเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก และได้ลงในสนามเป็นเกมแรก จากการลงมาเป็นตัวสำรอง แทน มานูเอล แฟร์นานเดส ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมอุ่นเครื่องที่ ประเทศโปรตุเกส เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย ไปกินขาด 3-0 เมื่อวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน 2017

จากฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ฟอร์มที่ร้อนแรงกับการเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ทำให้ บรูโน่ ถูก เรียกไปติดทีมชาติโปรตุเกส ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นตัวหลักให้กับทีมชุดนั้น ได้ลงไปในสนามเป็นตัวจริงในแรกของรอบแบ่งกลุ่ม และถูกสลับตัวออก และลงมาเป็นสำรองในนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม ต่อจากนั้นก็ไม่ได้ลงไปในสนามอีกเลย จนกระทั่งโปรตุเกส ตกรอบ 16 ทีมในที่สุด จากการพ่ายแพ้ต่อ อุรุกวัย 1-2

ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ บรูโน่ ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 25 นัด ยิงได้ 2 ประตู และเจ้าตัวก็ยังเป็นนักฟุตบอลที่อยู่ในชุดได้แชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2019 อีกด้วย

เกียรติประวัติ

  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกโปรตุเกส (6 ครั้ง)
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกโปรตุเกส (7 ครั้ง)
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลีกโปรตุเกส ปี 2017/2018 , 2018/2019
  • ติดทีมยอดเยี่ยมของศึกยูโรปา ลีก ปี 2017/18 , 2018/2019
  • ติดทีมยอดเยี่ยมของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ปี 2019
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก (2 ครั้ง)
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2019/2020
  • ดาวซัลโวศึกยูโรปา ลีก ปี 2019/2020

บทความที่น่าสนใจ